Audi เปิดตัวรถ Hatchback / Sedan สมรรถนะสูงรุ่น RS 3 สำหรับ Model Year 2025 ซึ่งเป็นการปรับโฉมตามรุ่นปกติที่ได้รับการยกหน้าใหม่ โดยเฉพาะกระจังหน้าแบบชิ้นเดียว หรือ singleframe พร้อมด้วยการออกแบบช่องดักลมที่กันชนหน้าใหม่ เช่นเดียวกับชิ้นส่วนสเกิร์ตใต้กันชนก็ได้รับการออกแบบใหม่ให้เข้าชุดกันอย่างลงตัว

 

ไฟหน้าชิ้นใหม่ที่ประกอบไปด้วยดวงไฟ LED ขนาดเล็กจำนวน 24 ชิ้น เรียงตัวคล้ายกับธงหมากรุกในสนามแข่งเพื่อสร้างบรรยากาศและรูปลักษณ์ให้สื่อถึงความเร็วได้ตั้งแต่แรกเห็น และยังสามารถเปลี่ยนเป็นรายละเอียดภายในโคมไฟให้แสดงเป็นรูปลักษณ์ได้ทั้งหมด 4 รูปแบบจากการควบคุมผ่านหน้าจอกลาง

 

งานออกแบบด้านท้ายมีการเปลี่ยนลวดลายภายในโคมไฟท้ายรวมถึงการติดตั้งแผ่นสะท้อนแสงด้านข้างของกันชนเป็นรูปทรงแนวตั้ง ขณะที่แผ่นดิฟฟิวเซอร์ก็ได้ถูกขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้น เช่นเดียวกันกับปลายท่อไอเสียทรงรีออกคู่ขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกรอบของบริเวณรอบๆสีดำดุดัน 

 

สำหรับสีตัวถังภายนอกทางค่าย 4 ห่วงยังได้เพิ่มทางเลือก สีฟ้า Ascari Blue สีแดง Progressive Red สีเทาด้าน  Daytona Gray พร้อมกับล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 19 นิ้วทำสีดำด้านจากโรงงาน หรือสามารถสั่งเปลี่ยนเป็นล้ออัลลอยอีกลวดลายที่สามารถเลือกได้ระหว่างสีดำด้านหรือสีดำเงา

 

เครื่องยนต์เบนซิน TFSI 5 สูบ DOHC 20 วาล์ว 2.5 ลิตร 2,480 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 82.5 x 92.8 มิลลิเมตร ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct-injection พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged กำลังสูงสุด 400 แรงม้า (PS) ที่ 5,600 – 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 2,250 – 5,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Dual-clutch S tronic 7 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro พร้อม RS Torque Splitter และท่อไอเสียแบบ RS Sport 

  • อัตราเร่ง 0-100 กม. / ชม. ภายในเวลา 3.8  วินาที
  • ความเร็วสูงสุด 290 กม. / ชม.

 

ปัจจัยสำคัญในการอัพเกรดสมรรถนะของตัวรถได้แก่การเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับควบคุมเป็นหลัก โดยเริ่มต้นที่การปรับปรุงระบบส่งผ่านกำลังจากเครื่องยนต์ลงศูนย์ล้อทั้ง 4 ที่มีการอัพเกรดโปรแกรมให้มีอัตราการตอบสนองที่ไวยิ่งขึ้น รวมไปถึงระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ควบคุมการทรงตัวรถทั้งหมดยังได้รับการปรับปรุงให้รองรับการปรับเปลี่ยนได้อย่างหลากหลาย นอกจากนี้อยากได้ทำการเปลี่ยนชุดโช๊คอัพใหม่ให้เป็นแบบแปรผันความหนืดได้ตามต้องการ ส่งผลให้พฤติกรรมของตัวรถเวลาวาดลวดลายในโค้งบนสนามแข่งมีอาการเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่สามารถปลดปล่อยสมรรถนะที่มีอยู่ในตัวรถได้อย่างเต็มกำลัง

 

ขณะที่ภายในห้องโดยสารได้มีการเปลี่ยนพวงมาลัยเป็นงานออกแบบใหม่ที่มีความเรียบหรูทันสมัยมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการติดตั้งวัสดุตกแต่งที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์รายล้อมรอบห้องโดยสาร ไฮไลท์อยู่ที่เบาะนั่งคู่หน้าจาก Audi RS น้ำหนักเบาที่มีโครงเบาะทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ที่สามารถเลือกติดตั้งเป็นออฟชั่นเพิ่มเติม มาพร้อมกับฝ่ายตกแต่งภายในห้องโดยสารชุดใหม่ที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการมากยิ่งขึ้น 

วัสดุบุนุ่มภายในห้องโดยสารเลือกใช้เป็นเกรดคุณภาพสูงโดยเฉพาะหนัง Nappa ที่มีให้เลือกหลากหลายเฉดสีรวมถึงการปรับสีของได้ให้เข้าชุดกันอย่างลงตัว อีกหนึ่งการพัฒนาที่แปลกใหม่ในวงการรถยนต์คือการวิจัยและปรับแต่งกลิ่นของวัสดุต่างๆภายในห้องโดยสารให้ผสมผสานออกมาอย่างลงตัวมากที่สุด

 

Audi จะพร้อมส่งมอบรุ่นปรับปรุงใหม่ของ RS 3 Sedan และ Sportback ให้กับลูกค้าในทวีปยุโรปได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 เป็นต้นไป โดยมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นในประเทศเยอรมันที่ 66,000 ยูโรหรือประมาณ บาท สำหรับรุ่น Sportback และ 68,000 ยูโรหรือประมาณบาท สำหรับรุ่น Sedan และยังไม่มีกำหนดการวางจำหน่ายสำหรับตลาดอเมริกันเหนือในขณะนี้

ที่มา: Carscoops