Toyota Prius รุ่นปัจจุบัน (เจเนอเรชั่นที่ 5) เผยโฉมครั้งแรกในโลก เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2022 ในฐานะภาคต่อของรถยนต์ขุมพลัง Hybrid รุ่นสร้างชื่อของค่าย และเป็นรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่คุณผู้อ่าน Headlightmag ไถ่ถามกันเข้ามาเป็นระยะ ว่าจะมีการเปิดตัวและทำตลาดในบ้านเราหรือไม่ !?

ในช่วงที่ผ่านมา Toyota Prius ถูกนำเข้ามาโชว์ตัวเพื่อหยั่งกระแสตอบรับจากลูกค้าชาวไทย ที่งาน Bangkok International Motor Show 2023 เคียงบ่าเคียงไหล่กับรถยนต์พลังงานทางเลือกรุ่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Toyota Corolla Cross H2O Concept รวมถึง Toyota LPG HEV Taxi Concept หรือ Japan Taxi จากนั้นก็มีจัดกิจกรรมทดสอบสมรรถนะการขับขี่ของ Toyota Prius ณ สนาม Buriram International Circuit ตามมาในช่วงปลายปี

ล่าสุด ทีมงาน Headlightmag ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่า Toyota Motor (Thailand) เตรียมนำเข้า Toyota Prius จากประเทศญี่ปุ่น เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ช่วงปลายปี 2024 ที่กำลังจะถึงนี้ โดยเป็นการทำตลาดแบบจำกัดจำนวนเพียงแค่ 200 คัน เท่านั้น !

 

Toyota Prius รุ่นปัจจุบัน ถูกสร้างขึ้นบนโครงสร้างงานวิศวกรรม TNGA (Toyota New Global Architecture Platform) เจเนอเรชั่นที่ 2 เป็นการพัฒนาต่อยอดเพื่อให้เกิดความสนุกในการขับขี่มากขึ้น และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง

ขนาดและมิติตัวถังภายนอก มีดังนี้

  • ความยาว 4,600 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง 1,780 มิลลิเมตร
  • ความสูง 1,420 มิลลิเมตร
  • ความยาวฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร
  • ระยะต่ำสุดใต้ท้องรถ Ground Clearance 145 – 150 มิลลิเมตร (ขึ้นอยู่กับขนาดล้อและยาง)
  • ความจุพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง 422 ลิตร
  • ความจุถังน้ำมัน 43 ลิตร (รุ่น PHEV 40 ลิตร)

 

ดีไซน์ด้านหน้าใช้ธีมการออกแบบใหม่ของค่ายที่มีชื่อว่า Hammerhead Dsign หรือฉลามหัวค้อน แนวเส้นฝากระโปรงออกแบบให้ลาดเอียงไล่ระดับต่อเนื่องไปถึงแนวกระจกบังลมหน้า แนวเส้นหลังคา และสิ้นสุดบริเวณบั้นท้ายที่ออกแบบมาให้มีความคล้ายรถยนต์ Fastback แม้ดีไซน์โดยรวมจะดูลิ่ม แต่ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ หรือ Coefficient Drag ของ Prius กลับเพิ่มขึ้นจาก 0.24 ในรุ่นก่อนหน้า เป็น 0.27

ด้านภายในห้องโดยสาร ถูกรังสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด “Island Architecture” ใช้ภาษาการออกแบบคล้ายรถ NEVs ยุคใหม่ของค่าย เช่นเดียวกับ Toyota bZ4X มีอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอชุดมาตรวัดแบบดิจิตอล ขนาด 7 นิ้ว หน้าจอกลางระบบสัมผัส ขนาด 12.3 นิ้ว กระจกมองหลังแบบฉายภาพจากกล้อง คันเกียร์ไฟฟ้า Shift-by-Wire มีการตกแต่งด้วยไฟ Ambient Light ซึ่งทำหน้าที่ปรับเปลี่ยนบรรยากาศภายในห้องโดยสาร และเป็นสัญลักษณ์เตือนในยามฉุกเฉิน

 

ขุมพลังของ Toyota Prius เวอร์ชั่นญี่ปุ่น จะมีให้เลือก 3 รูปแบบ ได้แก่ เบนซิน 1.8 ลิตร Hybrid / เบนซิน 2.0 ลิตร Hybrid และเบนซิน 2.0 ลิตร Plug-in Hybrid

เบนซิน 1.8 ลิตร Hybrid 

เครื่องยนต์รหัส 2ZR-FXE เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1.8 ลิตร 1,797 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 80.5 x 88.3 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 142 แรงม้า (PS) ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 1VM กำลังสูงสุด 95 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 185 นิวตันเมตร รวมพละกำลังสูงสุดทั้งระบบ 140 แรงม้า (PS) พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion

ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกทั้ง ขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ E-FOUR ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 1WM 41 แรงม้า 84 นิวตันเมตร สำหรับขับเคลื่อนล้อหลังในช่วงความเร็วต่ำ ไม่เกิน 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง

เบนซิน 2.0 ลิตร Hybrid 

เครื่องยนต์รหัส M20A-FXS เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 1,986 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 80.5 x 97.6 มิลลิเมตร ฉีดจ่ายนำ้มันแบบ Direct-injection (D-4S) กำลังสูงสุด 152 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 188 นิวตันเมตร ที่ 4,400 – 5,2000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 1VM กำลังสูงสุด 113 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 206 นิวตันเมตร รวมพละกำลังสูงสุดทั้งระบบ 196 แรงม้า (PS) พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion

ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกทั้ง ขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ E-FOUR ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 1WM 41 แรงม้า 84 นิวตันเมตร สำหรับขับเคลื่อนล้อหลังในช่วงความเร็วต่ำ ไม่เกิน 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง

เบนซิน 2.0 ลิตร Pug-in Hybrid 

เครื่องยนต์รหัส M20A-FXS เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 1,986 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 80.5 x 97.6 มิลลิเมตร ฉีดจ่ายนำ้มันแบบ Direct-injection (D-4S) กำลังสูงสุด 151 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 188 นิวตันเมตร ที่ 4,400 – 5,2000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 1VM กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 208 นิวตันเมตร รวมพละกำลังสูงสุดทั้งระบบ 223 แรงม้า (PS) พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion 13.6 kWh

ระบบขับเคลื่อนของรุ่น Plug-in Hybrid มีเฉพาะขับเคลื่อนล้อหน้า FWD เท่านั้น

สำหรับเวอร์ชั่นนำเข้ามาจำหน่ายในบ้านเรา คาดว่าจะเป็นขุมพลังเบนซิน 2.0 ลิตร Hybrid

 

ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ MacPherson Strut ด้านหลังเป็นแบบอิสระ Multi-link

ทั้งรุ่น HEV และ PHEV มีการติดตั้งแบตเตอรี่ High-voltage อยู่บริเวณใต้เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลัง เพื่อลดจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง ไม่เบียดเบียนพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง

 

สำหรับไลน์อัพของ Toyota Prius เวอร์ชั่นญี่ปุ่น ปัจจุบันมีให้เลือก 5 รุ่นย่อยหลัก ดังนี้

  • Prius HEV G ราคา 3,200,000 เยน
  • Prus HEV G E-FOUR ราคา 3,420,000 เยน
  • Prius HEV Z ราคา 3,700,000 เยน
  • Prius HEV Z E-FOUR ราคา 3,920,000 เยน
  • Prius PHEV Z ราคา 4,600,000 เยน

แน่นอนว่า การนำรถเข้ามาทั้งคัน (CBU) จะต้องมีภาษีนำเข้า และอื่นๆ แต่ในเบื้องต้น ทาง Toyota Motor (Thailand) จะพยายามทำราคาจำหน่ายของ Prius เวอร์ชั่นไทย ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 2,000,000 บาท

คาดว่าจะได้พบกับ Toyota Prius เวอร์ชั่นนำเข้าและจัดจำหน่ายโดย Official Authorized ภายในช่วงปลายปี 2024 นี้ อย่างแน่นอน โปรดติดตามความคืบหน้าในตอนต่อไป…