BYD สร้างกระแสโซเชี่ยลจนกินพื้นที่หลายสื่อไปอยู่พักใหญ่จากปรากฏการณ์การลดราคาอย่างไม่เกรงใจใคร แต่ทว่า สถานการณ์ในประเทศจีนกลับไม่เป็นแบบนั้น เมื่อการเปิดตัว Model Year 2025 ของ Seagull ที่วางจำหน่ายในฐานะน้องเล็กต่ำกว่า Dolphin ที่ยังไม่ได้วางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการในขณะนี้ แต่ได้มีแผนเปิดตัวในอเมริกาใต้ด้วยชื่อ Dolphin Mini

BYD เปิดตัว Seagull ตั้งแต่เดือนเมษายน 2023 ด้วยราคาจำหน่ายตั้งแต่ 78,800 – 95,800 หยวน หรือประมาณ 393,791-478,624 บาท จนกระทั่งได้เริ่มเปิดสงครามลดราคาในเดือนมีนาคม 2024 ที่ผ่านมา ภายใต้กลยุทธ์การผลักดันให้รถ EV มีความน่าสนใจมากกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยได้ทำการลดราคาจำหน่ายเริ่มต้นเหลือ 69,800 หยวน หรือประมาณ 348,726 บาท

Seagull Model Year 2024

อย่างไรก็ตาม ข่าวล่าสุดของการมาถึงของ Seagull รุ่นปรับอุปกรณ์หรือ Model Year 2025 โดยยังคงไว้ซึ่งงานออกแบบเช่นเดียวกับรุ่นปัจจุบัน ทั้งไฟหน้า กันชนหน้า กันชนท้าย มีเพียงการเปลี่ยนชื่อโลโก้ยี่ห้อจาก “Build Your Dreams” เหลือเพียง BYD เท่านั้น

ขณะที่งานออกแบบภายนอกที่เปลี่ยนไป ได้แก่ ลวดลายของล้ออัลลอยใหม่ โดยมีการปรับรายละเอียดเพียงเล็กน้อย พร้อมด้วยออฟชั่นฝาครอบล้อลวดลายที่แตกต่างกับรุ่น Model Year 2024

 

ภายในมาพร้อมกับงานออกแบบคอนโซลหน้าเช่นเดิม อย่างไรก็ตาม ทาง BYD ได้เพิ่มฟังก์ชั่นเบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้าและระบบอุ่นเบาะมาจากโรงงาน รวมไปถึงการติดตั้งกล้องมองรอบคัน 360 องศา ชุดเดิมที่ทำงานร่วมกับหน้าจอกลางขนาด 10.1 นิ้ว และหน้าจอมาตรวัดแสดงผลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว พร้อมเครื่องเสียงระบบ 4 ลำโพง

 

สิ่งที่น่าตกใจได้แก่ราคาจำหน่ายของ Seagull รุ่นปรับอุปกรณ์ Model Year 2025 ที่ปรับขึ้นเป็น 72,000 – 87,000 หยวน หรือประมาณ 359,717 – 434,659 บาท เท่ากับว่าแพงขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบันอยู่  2,200 หยวน หรือประมาณ 10,991 บาท โดยอาจเป็นสัญญาณของการไม่ใช้กลยุทธ์ลดราคาอีกต่อไป เนื่องจาก BYD ได้กวาดยอดขายของ Seagull ไปจำนวนกว่า 167,000 คัน ตลอดเดือนมกราคม-มิถุนายน 2024 ที่ผ่านมา และเตรียมเข้าสู่ยุคของการกวาดผลประกอบการมากกว่ากว่ายอดขายก็เป็นได้

ที่มา: Carnewschina