Toyota เปิดตัวรุ่นปรับปรุงอุปกรณ์ของ GR 86 ในประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วยการเปิดตัวรุ่นพิเศษเป็นรุ่นสูงสุดในไลน์อัพในขณะนี้ โดยใช้ชื่อรุ่นว่า GR Ridge Green Limited มีจำนวนจำกัดเพียง 200 คัน โดยผู้ที่สนใจจะต้องลงชื่อเข้าจับฉลากก่อนวันที่ 28 กรกฎาคม 2024 นี้
สำหรับลูกค้าชาวอเมริกันก็มีโอกาสเป็นเจ้าของรถรุ่นพิเศษที่ใช้สีตัวถังภายนอกเบอร์เดียวกันภายใต้ชื่อรุ่น Hakone Edition ซึ่งแต่เดิมเคยเปิดตัวในปี 2020 ที่ผ่านมา ดูในเวอร์ชั่นปี 2025 นี้จะผลิตเป็นจำนวนจำกัด 860 คัน
ภายในมาพร้อมกับเบาะนั่งทรงสปอร์ตหุ้มด้วยหนังกลับแบบพิเศษ Ultrasuede ตกแต่งด้วยสีเบจและสีดำสลับกัน หัวเกียร์ธรรมดาได้สลักคำว่า Hakone พร้อมด้วยการกรุ Ridge Green Limited ไว้ที่ภายในรถ
สำหรับการปรับปรุงรุ่นปกติทั้งเวอร์ชั่นญี่ปุ่นในอเมริกาเหนือจะได้รับการติดตั้งชุดโช๊คอัพที่ออกแบบใหม่ซึ่งเพิ่มอัตราการตอบสนองการขับขี่มากขึ้นรวมไปถึงการปรับแต่งโปรแกรมการตอบสนองของคันเร่งไฟฟ้า เพื่อรองรับการใช้งานร่วมกับเกียร์ธรรมดาได้อย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นขณะที่ทำการเร่งรอบชดเชย แล้วตอนนี้ยังมีการระบบควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ให้มีความเสถียรมากยิ่งขึ้นขณะเปลี่ยนเกียร์ ในส่วนของระบบบังคับเลี้ยวได้ทำการปรับแต่งศรัทธาคำตอบสนองของพวงมาลัย
งานออกแบบภายนอกยังคงใช้รุ่นท็อป GR86 Premium grade เป็นหลักตกแต่งด้วยร้อนน้อยขนาด 18 นิ้ว พ่นสีบรอนซ์ด้าน พร้อมด้วยการเพิ่มเติมสปอยเลอร์ตูดเป็ดที่บริเวณด้านท้ายและติดตั้งป้ายบ่งบอกความพิเศษจำนวนจำกัดที่บริเวณฝาท้ายเป็นรูปภูเขา Hakone ยิ่งไปกว่ายังได้ทำการอัพเกรดระบบเบรกจาก Brembo พ่นคาลิปเปอร์สีแดงพร้อมด้วยชุดโช้คจาก Sachs
ขณะที่ GR Ridge Green Limited เวอร์ชั่นลูกค้าญี่ปุ่นมาพร้อมการตกแต่งแบบเดียวกันกับเวอร์ชั่นอเมริกา
ขุมพลังเครื่องยนต์ 4 สูบนอนบล็อกเดิมความจุ 2.4 ลิตร ไร้ซึ่งระบบอัดอากาศยังคงให้กำลังสูงสุด 228 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 249 นิวตัน-เมตร มีให้เลือกทั้งระบบส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะหรือเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ทั้งสองรูปแบบได้รับการติดตั้งชุดส่งกำลังเฟืองท้ายแบบ limited-slip นอกจากนี้ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติจะได้รับการเพิ่มเติมโหมดการขับขี่ sport ที่ได้รับการปรับปรุงการเปลี่ยนเกียร์ ขณะที่รุ่นเกียร์ธรรมดาจะมีการติดตั้งโหมดการขับขี่ track ทำให้การตอบสนองขณะขับขี่ในสนามแข่งได้ดีขึ้น
Toyota ได้ประกาศราคาจำหน่ายของรุ่นปรับปรุง Model Year 2025 ในญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อย ในขณะที่ตลาดอเมริกาเหนือจะต้องรอการประกาศอีกครั้งหนึ่ง
ที่มา: Carscoops