หลังจากปล่อยทีเซอร์ของรุ่นใหม่ตัวตายตัวแทน Bentley Continental GT และ GTC Speed ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็ได้ฤกษ์งามยามดีที่ค่าย Bentley ได้เปิดตัวรถทั้งคันที่มาพร้อมขุมพลัง Ultra Performance Hybrid ที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2024 ที่ผ่านมา พร้อมด้วยงานออกแบบปรับปรุงใหม่บางส่วน เพื่อให้ทันยุคทันสมัยมากยิ่งขึ้น


เริ่มต้นที่ด้านหน้าที่ติดตั้งไฟหน้าแบบชิ้นเดียวเช่นเดียวกับที่เริ่มใช้กับรุ่น Bacalar และ Batur โดยนับว่าเป็นครั้งแรกของรถตระกูล Continental GT ที่เปลี่ยนมาใช้ไฟหน้าแบบชิ้นเดียวนับตั้งแต่ปี 1959 ในทางกลับกันบริเวณด้านหลัง มาพร้อมไฟท้ายแบบ 2 ชิ้น โดยมีให้เลือกทั้งรูปแบบตัวถังหลังคาแข็ง Coupe หรือ GT และหลังคาผ้าใบเปิดประทุน GTC




ขุมพลัง “Ultra Performance Hybrid” ซึ่งใช้ร่วมกันกับรถรุ่นอื่นๆ ในเครือ Volkswagen Group เช่น Porsche Panamera และ Cayenne Turbo รวมไปถึง Lamborghini Urus SE อันประกอบไปด้วย เครื่องยนต์เบนซิน V8 ที่ได้รับการปรับปรุงระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแรงดันสูงใหม่ พร้อมด้วยการเปลี่ยนเทอร์โบแบบ single-scroll ที่มีพละกำลังสูงสุด 592 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตัน-เมตร
พ่วงกับระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งระหว่างเครื่องยนต์และชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบ dual-clutch ซึ่งให้พละกำลังสูงสุด 187 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 451 นิวตัน-เมตร โดยมอเตอร์จะเข้ามาช่วยเพิ่มแรงบิดในรอบต่ำและชดเชยพละกำลังเพื่อทำให้การเปลี่ยนเกียร์มีความต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น




ทำให้สามารถสร้างพละกำลังรวมได้สูงถึง 740 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดร่วม 1,000 นิวตัน-เมตร รวมไปถึงความสามารถในการวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ระยะทางสูงสุดกว่า 80 กิโลเมตร ด้วยแบตเตอรี่ความจุ 25.9 kWh ที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังรถ ตามมาตรฐาน WLTP




สำหรับการปรับปรุงในส่วนอื่นๆ ได้แก่ การเปลี่ยนชุดโช้คอัพให้เป็นแบบวาล์วเปิดคู่ เพื่อให้มีการปรับแต่งแรงดันได้อย่างอิสระแยกกันระหว่างจังหวะ compression และ rebound ทำงานร่วมกับถุงลมแบบ Active และการที่ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดพอเหมาะ ทำให้การกระจายน้ำหนัก หน้า : หลัง อยู่ที่ 49 : 51 ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ Bentley ที่ใกล้เคียงอัตราส่วนกระจายน้ำหนัก 50 : 50 มากที่สุด พร้อมด้วยระบบบังคับเลี้ยวล้อหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับระบบ electromechanical active roll stabilization เช่นเดียวกับที่ติดตั้งใน RS Q8 Performance





Bentley จะพร้อมเดินสายพานการผลิตทั้งรุ่น Continental GT และ Continental GTC ที่โรงงานในเมือง Crewe ประเทศอังกฤษตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 นี้
ที่มา: Motor1