วันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา Nissan ประเทศญี่ปุ่น ได้ทำการเผยโฉม Note Aura รุ่นปรับโฉม Minorchange ทั้งรุ่น Aura ปกติ, รุ่น Aura Autech และรุ่นพิเสษ Aura 90th Anniversary ถือเป็นการเสริมทัพไลน์อัพของ Note Minorchange ให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อสานต่อความสำเร็จของรถยนต์นั่งรุ่นขายดีที่สุดในตลาดบ้านเกิด มาพร้อมการอัพเกรดความสดใหม่ด้านอุปกรณ์ และดีไซน์ด้านหน้าแบบ Digital V-Motion อันเป็น Design Language ใหม่ของค่าย
Nissan Note Aura Minorchage ได้รับการปรับงานออกแบบบริเวณกระจังหน้าให้ดูดุขึ้น พื้นที่สีดำของกระจังหน้าถูกขยายออกมาด้านข้างรับกับไฟหน้าทรงเพรียวบางกว่ารุ่นปกติ ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว มาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่ส่งผลดีต่อ Aerodynamic และมีน้ำหนักเบาลง แม้จะดูแปลกตา แต่นี่คือลวดลายที่ตั้งใจทำให้คล้ายกับ Mizuhiki หรือ กระดาษญี่ปุ่นที่ได้นำมาพันกันหลายๆ ชั้น จนเป็นเชือก มักใช้ตกแต่งในงานมงคลของคนญี่ปุ่น สวมด้วยยางขนาด 205/50 R17
สำหรับสีตัวถังภายนอก มีให้เลือกทั้งแบบ Monotone 8 เฉดสี และสี 2-tone อีก 5 สี โดยสีที่เป็นไฮไลท์ในครั้งนี้ คือ สีเขียว Forest Green ที่ช่วยทำให้รถมีความพรีเมียมขึ้น และชวนให้นึกถึงภาพการแข่งรถผ่านป่าลึกอันเขียวขจีทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี
ในรุ่น Autech มาพร้อมสีตัวถัง Aurora Flare Blue Pearl ตัดกับชุดตกแต่งพิเศษสีเงิน ทั้งชุดสเกิร์ตรอบคัน พร้อมไฟ Signature LED กรอบกระจกมองข้าง รวมถึงล้ออัลลอยสีเงิน ขนาด 17 นิ้ว ลวดลายได้รับแรงบันดาลใจจากทะเลชิงาซากิ โชนัน ซึ่งเป็นสถานที่ก่อตั้งแบรนด์ Autech ขณะที่รุ่น 90th Anniversery จะใช้สีทองแดงเข้ามาเสริมความหรูหราตามจุดต่างๆ
ภายในห้องโดยสารใช้สีใหม่ที่มีชื่อว่า Weimaraner ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสุนัขล่าสัตว์ขนาดใหญ่ วัสดุหุ้มเบาะนั่งและภายในห้องโดยสาร เป็นผ้าแจ็คการ์ดและหนังสังเคราะห์ที่มีลวดลายโมโนแกรมตามตัวอักษร “A” ของชื่อรุ่น Aura
ด้านการใช้งาน มีการออกแบบช่องเก็บของเหนือหัวเข่าผู้โดยสารแบบ 2 ชั้น เพิ่มความอเนกประสงค์ในการใช้งาน ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ที่ติดตั้งมาให้ยังคงเหมือนกันกับรุ่นเดิม อาทิ หน้าจอชุดมาตรวัดแบบ Full Digital หน้าจอกลางความละเอียดสูงระบบสัมผัส ขนาด 9 นิ้ว ทำงานร่วมกับชุดเครื่องเสียง BOSE Personal Plus Sound System ตลอดจนแผงคอนโซลกลางแบบ Bridge-type พร้อมคันเกียร์แบบไฟฟ้า Shift-by-wire
ด้านขุมพลังขับเคลื่อนของ Note Aura เป็นแบบ e-POWER อันประกอบด้วย เครื่องยนต์เบนซิน รหัส HR12DE 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ขนาด 1.2 ลิตร 1,198 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 78.0 x 83.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.0 : 1 กำลังสูงสุด 82 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้าให้แก่ มอเตอร์ไฟฟ้า มีให้เลือกทั้ง ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD และขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD
FWD
ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า EM47 กำลังสูงสุด 136 แรงม้า (PS) ที่ 3,183 – 8,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่ 0 – 3,183 รอบ/นาที
4WD
ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า EM47 กำลังสูงสุด 136 แรงม้า (PS) ที่ 3,183 – 8,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่ 0 – 3,183 รอบ/นาที และมอเตอร์ไฟฟ้า MM48 กำลังสูงสุด 68 แรงม้า (PS) ที่ 4,775 – 10,024 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตันเมตร ที่ 0 – 4,775 รอบ/นาที
ราคาจำหน่ายในญี่ปุ่น เริ่มต้นที่ 2,779,700 – 3,331,900 เยน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 647,000 – 776,000 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2024) นอกเหนือจาก Note Aura, Note Aura Autech และ Note Aura 90th Anniversry แล้ว Nissan ยังเตรียมเปิดตัวเวอร์ชั่นตกแต่งพิเศษอย่าง Note Aura NISMO ตามมาในเดือน กรกฎาคม นี้ ด้วยเช่นกัน
ที่มา : Nissan