ขณะที่ BMW ได้เปิดตัวรุ่นปรับโฉมของ 4-series ไปก่อนหน้านี้ รวมไปถึงรุ่นปรับอุปกรณ์เล็กน้อยของ M3 และ M4 ไปเมื่อต้นปี ก็ถึงคราวปรับปรุงรถแข่งที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของรถเหล่านี้อย่าง M4 GT3 และ GT4 ที่ครั้งนี้ได้รับการอัพเกรดให้ใช้ชื่อ EVO และจะพร้อมลงสนามแข่งในฤดูกาลปี 2025 

 

ภายนอกได้รับการติดตั้งไฟหน้าชุดใหม่ ที่ปรับรายละเอียดภายในโคมให้เหมือนรุ่นปรับโฉมของ M4 เวอร์ชั่นรถถนนที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ และแน่นอนว่าจะมาพร้อมไฟ DRL สีเหลืองเช่นเดียวกับ M4 CSL รุ่นพิเศษจำนวนจำกัด พร้อมกันนี้ BMW ยังได้ติดตั้งกระจังหน้าชุดใหม่ ที่นอกจากจะมีน้ำหนักเบาลงแล้ว ยังสามารถถอดเพื่อทำการปรับแต่งและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ภายในได้อีกด้วย สำหรับด้านหลัง ตัวรถยังมาพร้อมกับไฟท้ายแบบ laser ที่เริ่มนำมาใช้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การเปิดตัวของ M4 CSL เมื่อปี 2022

 

สำหรับรายละเอียดอื่นๆ ภายนอก ยังมาพร้อมกระจกมองข้างที่มีขนาดเล็กและเพรียวลมกว่าเดิม พร้อมด้วยการออกแบบซุ้มล้อคู่หน้าให้รองรับการไหลเวียนของกระแสลมที่ผ่านตัวถังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อมสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่เป็นพิเศษชิ้นใหม่เพื่อการเพิ่มแรงกดด้านท้ายอีกเล็กน้อย โดยวิศวกรได้ทำการเปลี่ยนมุมของครีบบนสปอยเลอร์หลัง 

 

ในส่วนของสมรรถนะของช่วงล่างที่มาพร้อมเหล็กกันโคลงชุดใหม่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมไปถึงการอัพเกรดระบบเบรกให้รองรับขุมพลังที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ อีกทั้งยังมีชุด limited differential ชุดใหม่ที่สามารถทำการปรับแต่งพละกำลังที่ส่งผ่านได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น 

ไฮไลท์สำหรับงานตัวถังเพื่อลดน้ำหนักลง ได้แก่ การเปลี่ยนกรรมวิธีการพ่นสีตัวถังเป็นการใช้การเคลือบด้วยกรรมวิธีพิเศษ อาศัยปฏิกิริยาทางไฟฟ้า หรือ cathodic dip coating รวมไปถึงการติดตั้งชิ้นส่วนที่ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์อีกหลายจุด 

 

ขุมพลังยังคงใช้บริการเครื่องยนต์รหัส P58 หรือ เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 2,993 ซีซี. เทอร์โบคู่ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 90.0 x 84.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 9.3 : 1 กำลังสูงสุด 590 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ Xtrac sequential 6 จังหวะ ที่หยิบยกมาจากรถแข่งรุ่นพี่ M8 GTE และยังได้ทำการปรับแต่งให้เทอร์โบมีความคงทนยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องได้รับการถอดมาตรวจสอบและซ่อมบำรุงหลังจากใช้งานไปแล้วเป็นระยะทางกว่า 20,000 กิโลเมตร

BMW ตั้งราคาจำหน่ายของ M4 GT3 EVO ไว้ที่ 578,000 ยูโร หรือประมาณ 23,024,978 บาท

ที่มา: Motor1