Volkswagen ยุโรปเปิดตัวรถตู้ขวัญใจสายแคมป์ปิ้งรุ่น California camper van โดยตัวรถสามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย มีให้เลือกหลายรูปแบบทั้งสายแคมป์ปิ้งชิวๆ และสายจริงจังใช้รถเป็น mini motorhome หรือบ้านเคลื่อนที่ โดยวางตำแหน่งไว้แทรกกลางระหว่าง Caddy California และ Grand California มาพร้อมขุมพลังแห่งอนาคต Hybrid และห้องโดยสารภายในที่ใหญ่จุใจกว่ารุ่นก่อน รวมไปถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครันยิ่งขึ้น

สำหรับรุ่นย่อยทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่ Beach Beach Tour Beach Camper Coast และ Ocean ที่ทุกรุ่นจะมาพร้อมหลังคาเตนท์ด้านบนที่ติดตั้งมุ้งกันแมลงมาเป็นที่เรียบร้อย พร้อมด้วยกันสาดแบบติดตั้งในตัวที่สามารถเลือกใช้งานได้ทั้ง 2 ข้าง

ภายในจัดเต็มโดยการปรับพื้นที่ใช้สอย ด้วยการเปลี่ยนเบาะนั่งแบบแถวยาวมาเป็นเบาะนั่งแบบแยก 2 ตัว อิสระ แต่ก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นเตียงนอนได้ โดยที่ไม่เสียพื้นที่ใช้สอยสำหรับเก็บสัมภาระขนาดใหญ่อีกด้วย

สำหรับชุดครัวที่ถูกออกแบบขึ้นใหม่ซึ่งสามารถสไลด์พับเก็บได้ ซึ่งสามารถเลือกติดตั้งได้ในรุ่นย่อย Coast และ Ocean โดยได้ปรับตำแหน่งให้ติดตั้งอยู่ด้านท้ายและสามารถใช้งานได้จากภายนอกรถได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น ติดตั้งเตาแก๊สแบบหัวเดี่ยวพร้อมด้วยซิงค์ล้างจาน รวมไปถึงตู้เก็บของ ขณะที่บางรุ่นจะเลือกใช้เป็นชุดครัวแบบตายตัว พร้อมตู้เก็บของและเตาแก๊ส

การใช้งานในรูปแบบห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ ทาง Volkswagen ก็ได้ติดตั้งช่องเสียบ USB-C ให้กำลังไฟสูงสุดถึง 45 วัตต์ ทั่วทั้งห้องโดยสาร รวมไปถึงลิ้นชักเก็บของด้านใต้เบาะนั่งที่สามารถยกออกเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมไฟส่องสว่างรอบคันที่สามารถสั่งปิดในครั้งเดียวได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส

ตั้งแต่รุ่น Beach Tour ขึ้นไป มาพร้อม แผงหน้าจอขนาดเล็กที่แสดงสถานะต่างๆของตัวรถ ซึ่งสำคัญต่อการใช้ชีวิตนอกบ้านในรูปแบบรถแคมป์ปิ้ง โดยจะติดตั้งอยู่ในบริเวณเสา C ด้านข้าง และทำงานร่วมกับแอปพลิเคชั่นที่ติดตั้งอยู่บนโทรศัพท์มือถือ

รุ่น Ocean ที่เป็นรุ่นท็อปสุด มาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองสำหรับการใช้ชีวิต ในรูปแบบแคมป์ปิ้งจำนวน 2 ชุด รวมไปถึงช่องเสียบปลั๊กไฟ ในรูปแบบไฟฟ้ากระแสสลับ แรงดันไฟฟ้า 230 V จำนวน 2 ตำแหน่ง บอกรางคู่หน้ามาพร้อมระบบอุ่น มองไปถึงช่องเก็บของต่างๆครบครัน โต๊ะแบบพับเก็บได้และถังน้ำสำรองความจุ 7.4 แกลลอน

Volkswagen จะวางจำหน่าย California Camper Van ด้วยทางเลือกขุมพลังทั้งหมด 3 รูปแบบ ที่ใช้ร่วมกันกับ Multivan ได้แก่

• eHybrid ระบบ PHEV เครื่องยนต์เบนซิน TSI ขนาด 1.4 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า และ แบตเตอรี่ lithium-ion ขนาด 13 kWh กำลังสูงสุดทั้งระบบ 245 แรงม้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติ DSG 6 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4Motion ขับขี่ได้ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวเป็นระยะทางสั้นๆ
• เครื่องยนต์ดีเซล TDI แบบ 4 สูบ เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 148 แรงม้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติ DSG 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า
• เครื่องยนต์เบนซิน TSI แบบ 4 สูบ เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 201 แรงม้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติ DSG 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า

ที่มา: Motor1