เพื่อไม่ให้น้อยหน้าบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ร่วมสัญชาติทั้ง Toyota และ Nissan ที่เปิดตัวรถ EV ในงานมหกรรมยานยนต์ Beijing International Automotive Exhibition หรือ Auto China 2024 อีกค่ายรถยนต์ขวัญใจชาวไทยอย่าง Honda จึงได้ฤกษ์วางจำหน่ายรถ EV ตัวถังซีดานยกสูงแบบ crossover ฝาแฝดอย่าง e:NP2 และ e:NS2 ซึ่งมีต้นกำเนิดแตกต่างกันจากบริษัทร่วมทุน GAC Honda Automobile Co., Ltd. (GAC Honda) และ Dongfeng Honda Automobile Co., Ltd. (Dongfeng Honda) ตามลำดับ
ในวันที่ 25 เมษายน 2024 นี้ทาง GAC Honda ได้นำร่องวางขาย e:NP2 ก่อนหน้า e:NS2 จาก ที่มีกำหนดการพร้อมจำหน่ายในเดือนมิถุนายน 2024 โดยทั้ง 2 รุ่น จะเป็นส่วนหนึ่งในรถ EV อีกจำนวนทั้งหมด 8 รุ่น ที่จะเปิดตัวในตลาดจีนภายในปี 2027 นี้ เพื่อให้ทางค่ายสามารถบรรลุเป้าหมายการเป็นผู้จำหน่ายรถ EV ล้วน ภายในปี 2035
แนวทางในการพัฒนารถในตระกูล e:N Series ได้แก่ “Dynamics, Intelligence and Beauty” ที่ไม่ได้สวยแต่รูป แต่จูบก็ยิ่งหอม ด้วยสมรรถนะที่ฉีกบทบัญญัติเดิมๆของรถ Honda เพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่เคยขับรถ EV มาก่อน โดดเด่นด้วยสมรรถนะการขับขี่และประสบการณ์การใช้งานที่เป็นมิตร
โดยแนวทางการออกแบบของ 2 พี่น้องฝาแฝดรุ่นนี้จะแตกต่างกันออกไป ขณะที่ e:NP2 จะเน้นเส้นสายที่เรียบง่ายแลดูคลีนๆ e:NS2 จะมาพร้อมงานออกแบบที่เร้าใจยิ่งกว่า ด้วยเส้นสายแบบรถสปอร์ต เพื่อให้ทั้ง 2 รุ่นจับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่ได้แย่งยอดขายกันเองแต่อย่างใด
ด้วยงานวิศวกรรมพื้นฐาน e:N Architecture F ที่ถูกพัฒนาให้เหมาะสมกับขุมพลังไฟฟ้าล้วนเท่านั้น เพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่ที่แตกต่าง โดยยังใช้เทคโนโลยีการจัดการแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้เหมาะสมกับแบตเตอรี่ความจุสูง จึงออกแบบให้ IPU (Intelligent Power Unit) สามารถลดแรงต้านในระบบได้เป็นอย่างดี สามารถเพิ่มระยะทางสูงสุดต่อ 1 รอบการชาร์จได้สูงสุดที่ 545 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC
ภายในยังประกอบไปด้วยเทคโนโลยีที่คำนึงถึงหลักสรีรศาสตร์อย่างสูงสุด ด้วยหน้าจอ Head-Up Display และการแสดงผลข้อมูลการขับขี่ที่ครบถ้วน ลงบนหน้าจอขนาดใหญ่จุใจถึง 12.8 นิ้ว บนการเชื่อมต่อที่ทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการ Honda CONNECT 4.0 ซึ่งถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับรถ Honda เวอร์ชั่นจีน ยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อมฟังก์ชั่น Intelligent Heating System ที่ช่วยให้การใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสาร อีกทั้งยังมาพร้อมระบบกระจายกลิ่นหอมตามต้องการภายในห้องโดยสารเป็นรุ่นแรกของ Honda อีกด้วย
ที่มา: Honda , Autohome