เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2024 Stellantis ปัดฝุ่นแบรนด์ Lancia ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งด้วยการเปิดตัวรถ Hatchback พรีเมี่ยมรุ่น Ypsilon ประเดิมด้วยขุมพลังไฟฟ้าให้สมศักดิ์ศรีกับการกลับมาในรอบ 13 ปี ด้วยการใช้งานวิศวกรรมพื้นฐาน CMP / eCMP platform ร่วมกันกับ Peugeot 208 / e-208 พร้อมกับยกชุดขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนและเครื่องยนต์เบนซินพ่วงระบบ Mild-hybrid เช่นเดียวกัน เพื่อบรรจุลงใน Ypsilon โดยงานออกแบบภายนอกได้อ้างอิงจากรถต้นแบบ Pu+Ra HPE Concept ที่เปิดตัวในปี 2023

 

Lancia ดึงเอาแนวทางการออกแบบของรถแข่งแรลลี่ในยุค 90 โดยเฉพาะชิ้นส่วนไฟคู่หน้า ขณะที่ไฟท้ายได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถสปอร์ตรุ่น Stratos โดยได้ซ่อนงานออกแบบรูปตัว Y ที่บริเวณไฟหน้าและไฟท้าย เช่นเดียวกับไฟ Dyatime running light พร้อมเพิ่มความสปอร์ตด้วยการตกแต่งคิ้วต่างๆ รวมไปถึงฝาครอบกระจกมองข้างด้วยวัสดุสีดำเงา

 

โดยในเวอร์ชั่นเปิดตัว Lancia ได้ดึงเอาความร่วมมือกับผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำจากอิตาลีอย่าง Cassina เพื่อร่วมออกแบบชิ้นส่วนภายในตัวรถให้มีความเหนือระดับกว่ารถ Hatchback ขนาดเดียวกัน ขณะที่รุ่นปกติที่จะเปิดตัวตามมาในภายหลัง ก็ยังถูกวางตำแหน่งทางการตลาดไว้สูงกว่า Peugeot 208 ด้วยการย้ายมือเปิดประตูคู่หลังไว้ที่บริเวณเสา C แทนมือเปิดแบบปกติ พร้อมด้วยโลโก้แบรนด์ที่ถูกออกแบบใหม่ให้ทันสมัย

 

ภายในมาพร้อมกับการยกระดับการตกแต่งให้สูงกว่าบรรดาเพื่อนร่วมชายคา Stellantis ยี่ห้ออื่นๆ แต่ก็ยังมาพร้อมหน้าจอคู่ขนาด 10.25 นิ้ว รวมไปถึงปุ่มควบคุมระบบเครื่องปรับอากาศที่ไม่ต้องใช้การควบคุมผ่านหน้าจอระบบสัมผัส โดยยังได้ติดตั้งแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายและช่องชาร์จแบบ USB-C จำนวน 3 ช่อง พร้อมการเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay รวมไปถึงระบบเครื่องเสียงเกรดพรีเมี่ยม ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร พร้อมระบบฟอกอากาศบริสุทธิ์

 

ขุมพลังไฟฟ้าล้วน เลือกใช้มอเตอร์เดี่ยวกำลังสูงสุด 156 แรงม้า (PS) ที่ 10,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร ที่ 300 รอบ/นาที พ่วงด้วยแบตเตอรี่ความจุ 54 kWh ทำให้ระยะทางที่วิ่งได้สูงสุด 403 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ชาร์จด้วย Quick Charge จาก 20 – 80% ภายในเวลา 24 นาที ด้วยกำลังไฟฟ้าสูงสุด 100kW

Lancia พร้อมวางจำหน่าย Ypsilon ในหลากประเทศทั่วภูมิภาคยุโรป โดยจะทยอยทำตลาดจนครบตามเป้าหมายในปี 2025 นี้ โดยจะมีเวอร์ชั่นขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินพ่วงระบบ Mild-hybrid เปิดตัวตามมาในภายหลัง ก่อนที่รุ่นอื่นๆ ที่เปิดตัวตามมาจะมาพร้อมขุมพลังไฟฟ้าล้วนเท่านั้น

ที่มา: Motor1