SAIC คืออีกเครือแบรนด์รถยนต์สัญชาติแดนมังกรที่กำลังร้อนแรง ทั้งในตลาดบ้านเกิดและตลาดโลกเนื่องจากมีเป้าหมายที่ท้าทายในปี 2024 นี้ด้วยการตั้งยอดขายเป็นจำนวนกว่า 1.35 ล้านคัน พร้อมกับตั้งเป้าหมายในปี 2025 ล่วงหน้าไว้ที่ 1.5 ล้านคัน ทั้งนี้การเติบโตของยอดขายในแต่ละปีจะต้องเกิดจากการเติบโตอย่างยั่งยืน

 

SAIC ยังตั้งใจที่จะปลุกปั้นแบรนด์ plans to leverage the centenary of its MG ให้มีจุดยืนในตลาดโลกมากยิ่งขึ้นด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผ่านการวิจัยออกแบบและพัฒนาเพื่อเอาใจคนทั้งโลกมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้รถยนต์รุ่นใหม่อีกจำนวนกว่า 14 คันที่จะใช้ขุมพลัง new energy vehicle (NEV) กันหมดทั้งสิ้น ซึ่งจะเตรียมเปิดตัวภายในสิ้นปี 2025 ภายใต้แบรนด์ต่างๆ ในเครือ

 

SAIC ยังได้เตรียมรุกตลาดด้วยแบรนด์เกรดพรีเมียมจำนวน 2 แบรนด์ได้แก่s Zhiji และ Feifan โดยทั้ง 2 แบรนด์จะนำกลยุทธ์ที่แตกต่างกันมาใช้งานในการบุกตลาดโลกเพื่อให้ตอบสนองความต้องการตลาดได้ตรงจุดประสงค์

ตลอดปี 2023 ทาง SAIC ได้กวาดยอดขายทั่วโลกไปแล้วกว่า 5.02 ล้านคัน กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนที่ยืนอยู่ในระดับหัวแถวของบรรดาผู้ส่งออกทั้งหมด โดยยอดจำนวนรถส่งออกเป็นจำนวนกว่า 1.208 ล้านคัน คิดเป็นอัตราส่วนเพิ่มกว่าปี 2022 กว่า 18.8% นับว่าเป็นผู้นำด้านการส่งออกรถยนต์เป็นปีที่ 8  

 

SAIC Group มียอดขายรถยนต์จากแบรนด์ย่อยที่ไม่ได้เกิดจากการร่วมทุนตลอดปี 2023 ที่ 2.775 ล้านคัน เป็นส่วนแบ่งจากยอดขายรวมทั้งหมดที่เกิดจากแบรนด์บริษัทร่วมทุน 55% คิดเป็นอัตราส่วนการเติบโตที่ 2.5% เมื่อเทียบกับปี 2022 

สำหรับเป้าหมายของปี 2024 นี้ ทาง SAIC ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 11.75% เพื่อรักษาตำแหน่งผู้ส่งออกสัญชาติจีนเบอร์หนึ่งอย่างต่อเนื่อง ด้วยการใช้ข้อได้เปรียบจากบริษัทร่วมทุนอย่าง SAIC-GM-Wuling โดยตั้งใจที่จะขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการเปิดตัวรถยนต์แบรนด์ Zhiji และ Feifan โดยจะมุ่งเน้นรถยนต์ที่ใช้ขุมพลัง NEV เป็นหลัก 

 

ทั้งนี้ SAIC ที่มีแบรนด์ย่อยและแบรนด์ที่เป็นบริษัทร่วมทุนจำนวนมาก จึงทำให้เมื่อพิจารณายอดขายจากแบรนด์เดี่ยวที่ไม่ได้เกิดจากการร่วมทุนแพ้ BYD ไปในที่สุด

ที่มา: Carnewschina