Kia เดินหน้าลุยตลาดรถ EV อีกระลอกด้วยการเปิดตัวรถต้นแบบ 3 ศรีพี่น้องเพื่อการพาณิชย์ ได้แก่รุ่น PV1, PV5 และ PV7 ซึ่งมีจุดเด่นด้านการใช้งานวิศวกรรมโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถปรับเปลี่ยนได้หรือ modular platform อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยใช้หลักการจุดเชื่อมต่อชิ้นส่วนที่สามารถสลับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานด้วยแรงแม่เหล็กไฟฟ้าและจุดยึดเชิงกล เพื่อให้สามารถเปลี่ยนการใช้งานระหว่างชีวิตประจำวันและวันหยุดสุดสัปดาห์ได้ โดยเลือกใช้เวทีงานจัดแสดงเทคโนโลยีระดับโลก CES 2024 ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 9-12 มกราคม 2024 ที่ Las Vegas สหรัฐอเมริกา
ยกตัวอย่างเช่น PV5 ที่ Kia ได้อธิบายการใช้งานว่า สามารถสลับชิ้นส่วนตัวถังด้านท้ายที่ถูกออกแบบสำหรับการโดยสาร โดยเป็นการใช้งานเชิงพาณิชย์หรือรถแท็กซี่ กับชิ้นส่วนตัวถังที่ถูกออกแบบให้สามารถใช้งานสำหรับการแคมป์ปิ้งยามสุดสัปดาห์ ด้วยอานุภาพของนวัตกรรม Platform Beyond Vehicle (PBV) ที่รองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบภายในตัวรถเพียงคันเดียว พร้อมกับเทคโนโลยีด้านซอฟต์แวร์ที่คอยควบคุมและติดตามการใช้งานสำหรับภาคธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม ด้วยความยืดหยุ่นของเทคโนโลยี Platform Beyond Vehicle จึงทำให้การใช้งานในรูปแบบส่วนบุคคลหรือสันทนาการเป็นไปได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะที่ตัวรถมาพร้อมหัวแค๊บสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่แยกส่วนกับชิ้นส่วนตัวถังด้านหลัง โดยใช้ข้อได้เปรียบจากการเป็นรถ EV ที่สามารถออกแบบพื้นตัวถังได้อย่างอิสระกว่า ทำให้สามารถเปลี่ยนได้ตามการใช้งานรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกล่องเก็บของ หรือห้องโดยสาร โดยใช้เทคโนโลยีขอยึดแบบแม่เหล็กไฟฟ้าและจุดยึดเชิงกล
โดย Kia ได้เคลมว่า PV5 สามารถดัดแปลงให้ตอบสนองการใช้งานได้สูงสุดกว่า 5 รูปแบบ ประกอบไปด้วย รถขนส่งสินค้าทั่วไป รถส่งสินค้าพื้นต่ำ รถส่งสินค้าเพดานสูง รถแท็กซี่ รวมไปถึงรูปแบบที่สามารถสั่งได้ตามการใช้งานเป็นพิเศษได้เช่นเดียวกัน
นอกเหนือจาก PV5 แล้ว Kia ยังเตรียมเปิดตัว PV1 ที่มีขนาดเล็กกว่า และ PV7 พี่ใหญ่ในตระกูลนี้ โดยทั้งหมดได้ถูกนำขึ้นจัดแสดงที่เวทีงาน CES และถึงแม้ Kia จะยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเรื่องระบบขับเคลื่อนและระยะทางที่วิ่งได้สูงสุดในตอนนี้ แต่ได้ยืนยันถึงเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ในการสร้างระบบการขนส่งสำหรับกิจการขนาดย่อมอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่แต่เพียงจำหน่ายรถยนต์เท่านั้น แต่ยังสร้างระบบสื่อสารและฐานข้อมูลที่สำคัญอีกด้วย
Kia คาดว่าจะพร้อมเปิดสายพานการผลิตรถต้นแบบเหล่านี้ในช่วงปี 2025 โดยจะเริ่มต้นด้วย PV5 ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะสามารถผลิตได้เป็นจำนวนมากถึง 150,000 คันต่อปี
ที่มา: Motor1