All NEW Suzuki Swift รุ่นเปลี่ยนโฉม Full Modelchange เจเนอเรชั่นที่ 4 รหัสโครงสร้าง YED ถูกเผยโฉมออกสู่สายตาสาธารณะชนครั้งแรก พร้อมกับกองทัพ Suzuki รุ่นอื่นๆ ภายในงาน Japan Mobility Show 2023 ที่ผ่านมา ล่าสุด Suzuki ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมของ Suzuki Swift เวอร์ชั่นญี่ปุ่น โดยมีให้เลือกทั้งหมด 3 เกรด ได้แก่ XG, Hybrid MX และ Hybrid MZ นับเป็นข่าวดีที่ Suzuki ยังไม่ได้ตัดสินใจยุติบทบาทของเครื่องยนต์สันดาปล้วนที่ Swift เจเนอเรชั่นนี้
รายละเอียดมิติตัวถัง มีดังนี้
- ความยาว 3,855 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,695 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,500 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,450 มิลลิเมตร
เปรียบเทียบกับ Swift รุ่นเดิม เวอร์ชั่นญี่ปุ่น มีข้อมูลดังนี้ (ยาว x กว้าง x สูง / ฐานล้อ)
- Swift 4th Gen : 3,860 x 1,695 x 1,500 / 2,450
- Swift 3rd Gen : 3,855 x 1,695 x 1,500 / 2,450
Suzuki Swift มีการดีไซน์กระจังหน้าแบบใหม่ จากเดิมที่มีเส้นโครมเมียมคาดตรงกลางได้ย้ายไปไว้ตรงขอบด้านล่างเป็นครึ่งวงกลม(รุ่น XG จะไม่ได้เส้นโครมเมียม) ไฟหน้าเป็น LED ใหม่ที่มีเส้นไฟ Daylights คาดตรงกลางระหว่างไฟโปรเจคเตอร์กับไฟเลี้ยว ชายล่างของกันชนหน้ามีการปรับดีไซน์เพิ่มโครมเมียม((รุ่น XG จะไม่ได้เส้นโครมเมียม) ความแตกต่างที่โดดเด่นจากรุ่นก่อนคือมือจับประตูด้านหลังจากเดิมซ้อนไว้ที่ข้างเสา C ได้ย้ายลงมาที่ด้านข้างของตัวรถ ในส่วนของด้านท้ายจะมีความโค้งเว้าน้อยกว่า Gennerations ที่ผ่านมา มีเส้นสายที่มีความเฉียบคมมากยิ่งขึ้น ไฟท้าย LED แบบใหม่ กันชนท้ายดีไซน์ใหม่ จากเดิมที่เป็นสีเดียวกับตัวรถได้มีการเติมสีดำเข้ามาให้ท้ายดูสปอร์ตมากขึ้น
ในส่วนของห้องโดยสารดีไซน์ยังคงคุ้นเคยใกล้เคียงกับ Generation ที่เเล้ว หน้าจอมาตรวัดยังคงเป็นแบบอะนาล็อกที่มีจอตรงกลาง ในขณะที่ระบบอินโฟเทนเมนต์มีขนาด 9 นิ้ว เอียงเข้าหาคนขับเล็กน้อย สวิตช์ปรับอากาศแบบใหม่ ด้านล่างของสวิตช์ปรับอากาศ ดูเหมือนจะเป็นช่องใส่ CD คอนโซลกลางเหนือที่วางแก้วมีช่อง USB 1 จุด เเละที่ชาร์จไฟ 2 จุด อีกหนึ่งสิ่งที่จะไม่พูดไม่ได้เลยคือ เบรกมือไฟฟ้ามาพร้อมกับ Auto-Hold
ขุมพลังของ Suzuki Swift ใหม่ มีให้เลือกทั้ง เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร และเบนซิน 1.2 ลิตร Mild-hybrid
ทั้ง 2 ขุมพลัง มีพระเอกหลักคือ เครื่องยนต์เบนซิน รหัส Z12E ขนาด 3 สูบ DOHC 16 วาล์ว DOHC ความจุ 1.2 ลิตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่พัฒนาใหม่ที่มีความเสียงการทำงานเงียบและช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น เฉพาะในรุ่น Mild-hybrid เท่านั้น ที่จะผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ISG Electric Motor-generator และแบตเตอรี่ Hybrid มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อนล้อหน้า FWD เเละขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD โดยรายละเอียดด้านพละกำลังนั้น ทาง Suzuki ยังไม่ได้เปิดเผยออกมาในขณะนี้
ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ MacPherson Sturt พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบคานบิดกึ่งอิสระ Torsion Beam ขณะที่ระบบห้ามล้อ ด้านหน้าเป็นจานเบรกแบบมีครีบระบายความร้อน ด้านหลังเป็นจานเบรกแบบ Solid ธรรมดา
ด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ ติดตั้งมาให้อย่างครบครัน ดังนี้
- กล้องมองรอบคัน 360 องศา
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Dual Sensor Brake Support
- ระบบช่วยเบรกในความเร็วต่ำ ด้านหน้า – หลัง Brake Support at Low Speed
- ระบบ เตือนการชนด้านข้าง Blind Spot Monitoring System
- ระบบเตือนมุมอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert
- ระบบช่วยเตือนเสียงขณะข้างหน้าออกตัว
- ระบบเตือนเมื่อรถมีอาการส่าย Stagger Alarm Function
- ระบบเปิดปิดไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist
- ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดพลาดด้านหน้า Erroneous Start Suppression Function
- ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดพลาดด้านหลัง Erroneous Rear Start Suppression Function
สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 13 สี
- สีน้ำเงิน Frontier Blue Pearl Metallic
- สีเหลือง Cool Yellow Metallic
- สีเเดง Burning Red Pearl Metallic
- สีส้ม Flame Orange Pearl Metallic
- สีน้ำตาล Caravan Lvort Pearl Metallic
- สีขาวมุก Pure White Pearl
- สีเทาเงิน Premium Silver Metallic
- สีเงิน Star Silver Metallic
- สีดำ Super Black Pearl
- สีน้ำเงิน หลังคาดำ Frontier Blue Pearl Metallic / Black Roof
- สีเเดง หลังคาดำ Burning Red Pearl Metallic / Black Roof
- สีเหลือง หลังคาดำ Cool Yellow Metallic / Black Roof
- สีขาวมุก หลังคาดำ Pure White Pearl / Black Roof
ที่มา : Suzuki