Mercedes-AMG เปิดตัวรุ่นปรับโฉมของ GLE 53 ทั้งตัวถัง SUV และ Coupe โดยการปรับใหญ่ครั้งนี้ ได้แก่การเปลี่ยนขุมพลังจาก Mild-hybrid มาใช้บริการขุมพลัง Plug-in hybrid แทน เพื่อให้มีสมรรถนะที่มากกว่ารุ่นปัจจุบัน พร้อมด้วยการปรับปรุงงานออกแบบด้านหน้าเพื่อให้สามารถรับอากาศเพื่อนำไปใช้ระบายความร้อนที่ชิ้นส่วน heat exchanger ที่ติดตั้งเข้ามาใหม่
สำหรับภายในที่ทาง Mercedes-Benz ได้ปรับปรุงกราฟิกต่างๆ ให้ทันสมัยและเหมาะสมกับการใช้งานมากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มเมนูการแสดงรายละเอียดต่างๆ ของระบบ Hybrid โดยเฉพาะระยะทางที่วิ่งได้ด้วยโหมด EV พร้อมสถานะแบตเตอรี่ ซึ่งในรุ่น Mild-hybrid จะไม่มีความจำเป็นในส่วนนี้
อย่างไรก็ตาม น้ำหนักตัวรถที่เพิ่มขึ้นจากแบตเตอรี่ความจุสูงกว่ารุ่น Mild-hybrid ทำให้ AMG ต้องปรับจูนช่วงล่างกันใหม่ โดยยังคงใช้บริการ ช่วงล่างถุงลมจาก AMG Ride Control+ เพียงแต่มีการเปลี่ยนชิ้นส่วนและซอฟท์แวร์ใหม่ โดยเฉพาะโช้คอัพคู่หลังใหม่ และเหล็กกันโคลงหน้า-หลังออกแบบใหม่ พร้อมด้วยการปรับแต่งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AMG Performance 4MATIC+ และ ระบบบังคับเลี้ยวให้เหมาะสมกับขุมพลังที่แรงกว่าเดิม
ขุมพลังของ Mercedes-AMG GLE 53 ถูกอัพเกรดเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง ความจุ 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 449 แรงม้า (PS) ที่ 5,800-6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 560 นิวตัน-เมตร ที่ 2,200-5,000 รอบ/นาที เสริมด้วยแบตเตอรี่ขนาด 31.2 kWh และ มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 136 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร เมื่อรวมกำลังทั้งระบบ จะได้กำลังสูงสุด 543 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 749 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT MCT 9G 9 จังหวะ ขับเคลื่อนสี่ล้อ AMG Performance 4MATIC+ พร้อมระบบกระจายแรงบิดแปรผัน รวมไปถึงการปรับให้กระจายแรงบิดสู่ล้อคู่หลังได้เต็ม 100%
- อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 4.7 วินาที
- ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
นอกจากนี้ ระบบ Plug-in hybrid ยังทำให้ AMG สามารถปรับแต่งโหมดการขับขี่เพิ่มเติม AMG Dynamic Select system ที่ช่วยกักเก็บพลังงานในแบตเตอรี่สำหรับการใช้วิ่งด้วยโหมด EV เมื่อต้องการ และด้วยการที่สามารถวิ่งได้ด้วยโหมด EV ได้เป็นระยะทางพอสมควร จึงต้องมีการเพิ่มโหมดเสียงสังเคราะห์ เพื่อให้คนเดินถนนได้รับรู้และระวังตัวไม่ให้เกิดอันตราย
กำหนดการวางจำหน่ายของ Mercedes-Benz AMG GLE 53 SUV / Coupe จะเริ่มในปี 2024-2025 ขึ้นอยู่กับแต่ละภูมิภาค
ที่มา: Carscoops