BYD กำลังมองหาโอกาสใหม่ในภูมิภาคยุโรป ด้วยการตั้งฐานการผลิตที่โรงงานแห่งใหม่ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายของแบรนด์ ซึ่งต้องการที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตรถ EV ติด TOP 3 ของภูมิภาคยุโรป รวมไปถึงเป้าหมายที่จะมีส่วนแบ่งรถ EV 10% ในตลาดโลก ภายในปี 2030 หลังจากที่พลาดเป้าจากสหราชอาณาจักร ด้วยผลกระทบจาก Brexit ที่ทำให้นักลงทุนต่างเสียความเชื่อมั่นและสิทธิพิเศษบางประการ ทำให้ย้ายเป้าหมายไปที่ยุโรปเป็นส่วนใหญ่
สำหรับค่ายรถ EV ตัวพ่ออย่าง Tesla ก็ยังเมินสหราชอาณาจักร และได้ให้เหตุผลว่า Brexit นั้นทำให้สูญเสียแผนการลงทุนโรงงานและโอกาสใหม่ไป ด้วยการบริหารการจัดการของสหราชอาณาจักรที่ไม่ดีพอและไม่รองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต จนทำให้ทางค่ายต้องหันไปตั้งโรงงานในประเทศเยอรมันแทน
สำหรับทาง BYD เอง ได้พุ่งเป้าไปที่โรงงานของ Ford ในเมือง Saarlouis ประเทศเยอรมัน แต่กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาราคาที่เหมาะสม โดยต้องอาศัยความแน่นแฟ้นระหว่าง 2 ฝ่ายที่เป็นพันธมิตรมาก่อนหน้านี้
BYD เตรียมเดินสายพานการผลิตรถ EV ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป เพื่อเป็นกำลังเสริมให้กับกำลังการผลิตของโรงงานในประเทศจีน ที่สามารถผลิตได้เป็นจำนวน 1 ล้านคัน ต่อไป พร้อมการวางรากฐานโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จไฟต่างๆ ตามหัวเมืองทั่วภูมิภาคยุโรป ที่มาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่สำรองเพื่อทำให้การชาร์จไฟได้เร็วขึ้นกว่า การนำไฟฟ้าจากสถานีไฟฟ้ามาใช้แบบการชาร์จทั่วไป
ค่ายรถยนต์จากแดนมังกรกำลังเข้ามาท้าทายด้วยการชิงสวนแบ่งรถ EV ในภูมิภาคยุโรป อันได้แก่ แบรนด์ NIO และ XPeng ที่เข้ามาทำตลาดไปแล้วก่อนหน้านี้ โดย BYD เตรียมวางจำหน่ายรถรุ่น Han Tang และ Atto 3 หลังจากเปิดตัว Atto 3 ในสหราชอาณาจักรภายในเดือนมีนาคมนี้ ผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่ทาง BYD เคลมไว้ว่า ได้มีการจัดเตรียมความพร้อมไปเรียบร้อยแล้ว
ที่มา: Carnewschina