BYD กำลังรุกตลาดนอกแดนมังกรอย่างต่อเนื่องดังจะเห็นได้จากยอดส่งออกของหัวหอกทั้ง 3 รุ่น อย่าง Dolphin Yuan Plus (Atto 3) และหน้าใหม่อย่าง Seal ซึ่งในเดือนกันยายน 2023 ที่ผ่านมา มียอดส่งออกเป็นจำนวน 13,132 9,277 และ 4,803 คัน ตามลำดับ รวมเป็นจำนวนกว่า 28,039 คัน ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญต่อเนื่องกันเป็นจำนวนกว่า 4 เดือนแล้วในปี 2023 นี้
BYD เพิ่งจะขยายตลาดไปยังประเทศที่ยังไม่มีการเปิดรับรถ EV อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น ตุรกี โบลิเวีย บราซิล เม็กซิโก ออสเตรเลีย รวมไปถึงสหราชอาณาจักร หลังจากก้าวเข้าไปชิมลางตลาดรถ EV นอกประเทศจีนไปก่อนหน้าอย่าง อิสราเอล สวีเดน นิวซีแลนด์ รวมไปถึงประเทศไทย
ตลอดระยะเวลา 9 เดือนของปี 2023 BYD ส่งออก Dolphin ไปแล้วกว่า 41,519 คัน โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นยอดที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2023 ขณะที่แชมป์ตลอดปี 2023 ยังคงเป็นของรุ่นพี่อย่าง Atto 3 / Yuan Plus ที่เปิดตัวในตลาดนอกบ้านเกิดไปก่อนหน้าและเริ่มส่งออกตั้งแต่ต้นปี 2023 เป็นต้นมา จนทำให้ยอดรวมตลอด 9 เดือน มีจำนวนกว่า 71,957 คัน
อย่างไรก็ตาม BYD ยังคงมีน้องใหม่ที่ต้องเร่งกำลังส่งออกอย่าง Seal หลังจากเปิดตัวอย่างร้อนแรงในประเทศไทยไปหมาดๆ จนทำให้ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นจาก 1,600 คัน ในเดือนสิงหาคม 2023 เป็นจำนวน 4,803 คัน ในเดือนกันยายน 2023 จนสามารถสร้างยอดส่งออกรวมได้เป็นจำนวนกว่า 7,197 คัน ชดเชยกับยอดขายภายในประเทศจีนที่น้อยกว่าเป้าหมายที่คาดการไว้ล่วงหน้า หลังจากคาดว่าจะสามารถเอาชนะ Tesla Model 3 ได้อย่างง่ายดายด้วยกลยุทธ์ราคาจำหน่าย
สำหรับความแตกต่างระหว่าง BYD และ Tesla ที่เห็นได้ชัด จะพบว่า BYD กลับเลือกแนวทางการทำตลาดแบบตัวแทนจำหน่ายตามสไตล์ผู้จำหน่ายรถยนต์ทั่วไป ทำให้มีข้อได้เปรียบในตลาดบางประเทศที่ยังให้ความสำคัญกับการบริการหน้าร้านและหลังการขายที่เข้าถึงง่าย ซึ่งได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า กลยุทธ์นี้ทำให้ BYD สามารถเจาะตลาดกลุ่มประเทศที่ยังไม่มีความนิยมรถ EV และยังไม่เปิดใจให้กับประสบการณ์ใช้งานรถ EV มากนัก
BYD ยังมีข้อได้เปรียบในเชิงธุรกิจมากกว่าค่ายรถยนต์ที่หันมาเอาจริงเอาจังด้านรถ EV อยู่หลายประการ ไม่ว่าจะเป็น การผลิตรถที่มีออฟชั่นตอบโจทย์ลูกค้าส่วนใหญ่ตามความจำเป็น โดยไม่ติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่เวอร์วังจนเกินพอดี ดังจะเห็นได้จากการไม่เลือกที่จะติดตั้ง LIDAR และระบบ autopilot รวมไปถึงการจัดการสายพานการผลิตและชิ้นส่วนยานยนต์ โดยเฉพาะแบตเตอรี่ BYD เลือกที่จะประกอบธุรกิจเหมืองแร่ลิเทียมและมีโรงงานผลิตแบตเตอรี่เป็นของตนเอง ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีธุรกิจการขนส่งทางบกและน้ำ เพื่อรองรับการส่งออกได้อย่างทันท่วงที
ถึงกระนั้น คุณภาพของรถ BYD ในอดีตที่ผ่านมา ทำให้ภาพลักษณ์ของ BYD ถูกมองว่าเป็นรถเพื่อการพาณิชย์และไม่มีความหรูหราจนสามารถขายในราคาแพงได้ จนทำให้ทางค่ายต้องเปิดตัวแบรนด์ย่อยจำนวน 2 แบรนด์ ได้แก่ YangWang และ Fang Cheng Bao ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ในประเทศให้ทัดเทียมกับผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติได้
ที่มา: Carnewschina