GAC ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่แดนมังกรที่กำลังปลุกปั้นให้แบรนด์ Aion ที่เกิดมาเพื่อจำหน่ายรถ EV มียอดจำหน่ายในระดับพอฟัดพอเหวี่ยงได้กับบรรดาคู่แข่งระดับแนวหน้า ด้วยกลไกราคา (ไม่อาจใช้ได้กับประเทศไทย) จึงทำให้สามารถกวาดยอดขายไปได้มากกว่า 51,596 คัน ตลอดเดือนกันยายน 2023 ที่ผ่านมา สร้างความน่าพอใจให้กับแบรนด์ด้วยอัตราส่วนเพิ่มขึ้นของยอดขายกว่า 72% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2022 รวมถึงเพิ่มมากกว่าเดือนกรกฎาคม 2023 อีกกว่า 15%
สำหรับยอดขายสะสมตลอดระยะเวลา 9 เดือน ของปี 2023 ที่ GAC สามารถส่งมอบ Aion ได้เป็นจำนวนกว่า 350,986 คัน สร้างนิมิตหมาย อันดีด้วยสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2022 มากถึง 93% หลังจากยอดขายเดือนกันยายน 2023 สามารถสร้างสถิติใหม่ทะลุหลัก 5 หมื่นคัน ได้สำเร็จ
ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถทำกำไรได้ตามเป้าหมายเป็นระยะเวลา 2 เดือนติดต่อกัน นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนและกรกฎาคม 2023 ขณะที่ค่ายรถยนต์สัญชาติเดียวกันกำลังเผชิญปัญหาด้านต้นทุนและสงครามราคาขาย ทำให้ต้องยอมกรีดเลือดกันถ้วนหน้า มีเพียง BYD Li Auto และ GAC ที่ออกมายืนยันถึงผลประกอบการในเชิงบวก ณ ขณะนี้
ขณะที่ยอดขายของรถ BEV ในประเทศจีนกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น หลังจากมีอาการซบเซาในช่างกลางปีที่ผ่านมา โดยตลอดเดือนกันยายน 2023 BYD ยังคงเป็นผู้นำยอดขายรถกลุ่มนี้ด้วยหลักแสนคัน ขณะที่ Aion เองที่สร้างยอดขายได้แซงหน้า Tesla ที่มียอดจำหน่ายตกลงในเดือนกันยายนเหลือเพียงหลัก 4 หมื่นคันต่อเดือน ตามมาด้วย Li Auto ด้วยยอดหลัก 3 หมื่นกลางต่อเดือน
หากแนวโน้มยอดขายของ Aion รักษาอยู่ในระดับเท่านี้ต่อไป เป้าหมายยอดขายปีละ 5 แสนคัน คงไม่ไกลเกินเอื้อม หลังจากทำผลงานได้น่าพอใจตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2023 เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ยอดขายรถ EV เติบโตกว่า 30% ในช่วงครึ่งปีแรก นอกเหนือไปจากหัวตารางอย่าง BYD
อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าจับตามองจากนักวิเคราะห์การตลาดต่างพุ่งเป้าไปที่ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Aion ที่มีราคาจำหน่ายอยู่ในระดับกลางค่อนไปทางเริ่มต้น รวมไปถึงยอดขายส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นมาจากรถยนต์เพื่อการพาณิชย์หรือรถแท็กซี่ จึงต้องจับตามองความยั่งยืนของยอดขายในระยะยาว รวมไปถึงการแข่งขันที่ร้อนแรงสำหรับรถยนต์ที่ใช้ขุมพลังไฟฟ้าล้วนในกลุ่มราคาจับต้องได้ง่าย อาจส่งผลกระทบให้ยอดขายหลังจากนี้มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
ที่มา: Carnewschina