Geely เปิดตัวรถซีดานขนาดกลางขุมพลัง Hybrid ด้วยชื่อรุ่น Xingrui L ภาคต่อที่มาพร้อมความหรูหรายิ่งกว่า โดยมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งหากย้อนไปถึงปี 2020 ที่ Geely เปิดตัว Xingrui ที่สร้างขึ้นอยู่บนงานวิศวกรรมพื้นฐาน CMA architecture ซึ่งแต่เดิมจะใช้ขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปภายในล้วนทั้งในความจุ 1.5 ลิตร และ 2.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จเจอร์
Xingrui L ยังคงมีระยะฐานล้อ 2,800 มิลลิเมตรเท่ากับ Xingrui รุ่นปกติ แต่มีการเปลี่ยนงานออกแบบภายนอกเล็กน้อย จึงทำให้มีความยาวเพิ่มขึ้นเป็น 4,825 มิลลิเมตร โดยที่ความกว้างและความสูงยังเท่าเดิมที่ 1,880 และ 1,469 มิลลิเมตร ตามลำดับ
งานออกแบบภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าซี่แนวตั้งที่ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียม โดยได้เพิ่มขนาดซี่ให้ใหญ่กว่าเดิม พร้อมด้วยโลโก้ Geely พื้นหลังสีขาวแบบใหม่ ขณะที่กันชนหน้ามาพร้อมการปรับเปลี่ยนลวดลายบริเวณมุมกันชนทั้งสองข้างใหม่ ที่กินพื้นที่บริเวณไฟหน้าจนเหลือขนาดเล็กลง โดยตั้งใจให้มีความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น เส้นสายด้านข้างยังคงเหมือนกับรุ่นปกติ เพิ่มเติมโลโก้ตกแต่งบริเวณเสา C และล้ออัลลอยลายใหม่
ขณะที่ด้านท้ายเปลี่ยนมาใช้ไฟท้ายแบบยาวตลอดความกว้างตัวรถ แทนการคาดด้วยเส้นโครเมียมตกแต่ง พร้อมเปลี่ยนชิ้นส่วนดิฟฟิวเซอร์และปลายท่อจากทรงรีมาเป็นทรงเหลี่ยม เพิ่มความหรูหราด้วยเส้นโครเมียมตกแต่งที่ขอบด้านล่าง
ภายในอัพเกรดให้มาพร้อมหน้าจอกลางขนาดใหญ่จุใจแนวตั้ง พร้อมด้วยการตกแต่งสีทูโทนม่วง-ขาว เพื่อสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบสบายๆ มาพร้อมพวงมาลัย 4 ด้าน ออกแบบใหม่ คอนโซลกลางและกล่องเก็บของขนาดใหญ่ เน้นการควบคุมจากจอกลางเป็นหลัก เนื่องจากได้ยกเลิกปุ่มควบคุมต่างๆ ออกไป พร้อมด้วยจอมาตรวัดผู้ขับขี่ ขนาด 10.25 นิ้ว
ขุมพลังเลือกใช้เครื่องยนต์เบนซิน รหัส BHE15-BFZ ที่ใช้ร่วมกันกับ Geely Galaxy L7 SUV เป็นแบบ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว 1.5 ลิตร ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า มีพละกำลังรวมสูงสุดทั้งระบบ 163 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 255 นิวตัน-เมตร
Geely Xingrui L มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 120,000 หยวน หรือประมาณ 618,496 บาท มากกว่ารุ่นปกติอยู่ 11,300 หยวน หรือประมาณ 57,209 บาท ด้วยราคาที่จับต้องได้ง่าย จึงทำให้ Geely Xingrui มียอดขายเป็นอันดับที่ 15 ของตลาดรถซีดานในประเทศจีน ด้วยยอดสะสมกว่า 69,451 คัน ตลอดระยะเวลา 8 เดือนของปี 2023 ที่ผ่านมา
ที่มา: Carnewschina