Honda เปิดตัว N-VAN e: อย่างเป็นทางการหลังจากปล่อยภาพรถคันจริงไปเมื่อปลายปี 2022 โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ เนื่องจากตลาดรถ EV ในประเทศญี่ปุ่นยังถูกปิดกั้นจากข้อจำกัดของสถานีชาร์จและประสบการณ์การใช้งานที่ยังไม่แพร่หลายเท่าประเทศไทย หลายค่ายรถยนต์จึงมุ่งเป้าไปที่รถตู้ไซส์ Kei-car ที่ดัดแปลงการใช้งานได้หลากหลาย

สำหรับหน้าตาของ N-VAN e: ยังคงเหมือนกับที่ปล่อยภาพออกมาไม่ผิดเพี้ยน ซึ่งเมื่อดูโดยผิวเผินแล้วจะสามารถพบความแตกต่างจากรุ่นปกติได้ที่บริเวณกระจังหน้า ที่ซ่อนช่องชาร์จไฟไส้อย่างแนบเนียน ยิ่งไปกว่านั้นยังเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลสำหรับกันชนหน้าและหลัง ที่ผ่านกระบวนการย่อยสลายของกันชนรถยนต์เก่า รวมไปถึงกระจังหน้าและชิ้นส่วนอื่นๆรอบคันอีกด้วย



ภายในมาพร้อมกับการจัดวางเบาะนั่ง 2 รูปแบบ ตามแต่ละรุ่นย่อย ทั้งแบบ 2 แถวที่สามารถโดยสารได้สูงสุด 4 ตำแหน่ง หรือ 2 แถว 2 ที่นั่ง ในรุ่นเริ่มต้น โดยเบาะนั่งทั้งหมดสามารถพับได้ราบเรียบไปกับตัวถัง


ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนที่ถูกพัฒนาให้ทุกชิ้นส่วนมีขนาดเล็กเพื่อลดน้ำหนักที่ไม่จำเป็น พร้อมมอบระยะทางวิ่งสูงสุดต่อ 1 รอบการชาร์จกว่า 210 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTC พร้อมด้วยโหมด ECON ในการเพิ่มระยะทางวิ่งได้อีกเล็กน้อย สามารถชาร์จได้ด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC กำลังไฟสูงสุด 6.0 kW ที่ใช้เวลาเกียบ 5 ชั่วโมงในการชาร์จเต็มรอบ พร้อมด้วยฟังก์ชั่น V-to-L จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ได้ด้วยกำลังไฟฟ้าสูงสุด 1,500W


ด้วยการติดตั้งแบตเตอรี่ไว้ที่พื้นตัวถังทำให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างจากรถ Kei-car ทั่วไป และแน่นอนว่าความสบายขณะขับขี่ก็มีมากกว่ารถ Kei-car ทั่วไป เนื่องด้วยการหันมาใช้ขุมพลังไร้เสียงรบกวน
นอกจากนี้ยังได้ทำการอัพเกรดระบบเบรกให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยการอัพไซส์จานเบรกให้ใหญ่ขึ้น พร้อมด้วยการปรับปรุงการบาลานซ์เบรก เพื่อไม่ให้น้ำหนักตัวรถที่เพิ่มขึ้นส่งผลต่อการขนส่งแบบเต็มพิกัด




ไฮไลท์สำคัญอีกหนึ่งประการได้แก่การติดตั้งแอปพลิเคชั่น Honda CONNECT ที่จะควบคุมและตรวจสอบสถานะตัวรถได้ด้วยโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดชั่วโมงการชาร์จ กำหนดกระแสไฟฟ้าสูงสุดขณะชาร์จ รวไมปถึงกำลังไฟฟ้าสูงสุดในการจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า
กำหนดการวางจำหน่ายของ N-VAN e: จะมีขึ้นในช่วงกลางปี 2024 เพื่อมุ่งเข้าสู่ยุคของขุมพลังไฟฟ้าทั้งรูปแบบ Hybrid และ Full EV ภายในปี 2030
ที่มา: Carscoops