Nissan Serena เป็นรถตู้ Compact Minivan 1-Box Type เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง เน้นตอบโจทย์ลูกค้าสายครอบครัว เริ่มออกจำหน่ายตั้งแต่ปี 1991 และเคยถูกนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยโดย Siam Motors ช่วงปี 1993 ก่อนจะยุติไปในภายหลัง โดยปัจจุบันการทำตลาดของ Serena ดำเนินมาถึงเจเนอเรชั่นที่ 6 รหัสตัวถัง C28 เผยโฉมออกสู่สายตาชาวโลกครั้งแรก เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2022
ล่าสุด Headlightmag ได้รับการยืนยันแล้วว่า Nissan Motor (Thailand) เตรียมเปิดตัว Nissan Serena ในช่วงครึ่งหลังปี 2024 โดยนำเข้าตัวรถจากโรงงาน Tan Chong Motor Assemblies (TCMA) ประเทศมาเลเซีย อาศัยสิทธิประโยนชน์ทางภาษี ภายใต้กรอบ AFTA สำหรับเวอร์ชั่นไทย จะมีให้เลือกเพียงรุ่นย่อยเดียวคือ Serena e-Power Highway Star ขุมพลังเบนซิน 1.4 ลิตร e-Power (Series Hybrid) ตกแต่งภายนอกแบบ Highway Star V ซึ่งเน้นความ Luxury & Sporty เป็นหลัก (เวอร์ชั่นมีเลือก 5 เวอร์ชั่น ได้แก่ X, XV, Highway Star V, Luxion และ Autech)
ข้อมูลเบื้องต้นของ Nissan Serena e-Power Highway Star V เวอร์ชั่นญี่ปุ่น มีดังนี้
ขนาดและมิติตัวถัง
Dimension
- ความยาว 4,690 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1715 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,895 มิลลิเมตร
- ความยาวฐานล้อ 2,870 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น Ground Clearance 135 มิลลิเมตร
- รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.7 เมตร
ดีไซน์ภายนอกของ Nissan Serena มาพร้อมกระจังหน้าและชุดไฟหน้า LED ที่ออกแบบให้กลมกลืนเป็นส่วนเดียวกัน เป็น Design Language ใหม่ของ Nissan ที่เริ่มปรากฎในรถยนต์ต้นแบบ Nissan Chilled Out ระหว่างเสาหลังคา A-Pillar และ B-Pillar มีกรอบประตูคั่นกลาง เพื่อเพิ่มการมองเห็นบริเวณมุมด้านข้าง เช่นเดียวกับรถตู้ MPV ยุคใหม่หลายรุ่น ด้านความสะดวกสบายมาพร้อมประตูสไลด์ไฟฟ้า เสริมการทำงานด้วยระบบ Kick Activated เพื่อพกกุญแจเดินเข้าใกล้ตัวรถแล้วสอดเท้าเข้าไปใต้ท้องรถ ประตูสไลด์จะเลื่อนเปิดให้อัตโนมัติ
บานฝาท้ายถูกคำ้ยันด้วยโช๊คอัพดรอลิกธรรมดา สามารถเปิดออกแบบทั้งบานปกติ และแบบแยกเฉพาะส่วนบน ลดปัญหาการเปิดในที่แคบสำหรับรถตู้ที่มีบานฝาท้ายขนาดใหญ่ เมื่อเปิดบานฝาท้ายออกจะพบกับพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่โตตามสไตล์ MPV เบาะนั่งแถวที่ 3 ถูกออกแบบกลไกการพับเก็บเป็นแบบแขวนติดกับผนังด้านข้าง นอกจากนี้ ใต้พื้นห้องเก็บสัมภาระยังมีหลุมสำหรับเก็บสิ่งของที่อาจส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์
ภายในห้องโดยสารของ Serena เวอร์ชั่นญี่ปุ่น หากเป็นรุ่น Luxion จะมาพร้อมเบาะนั่ง 7 ตำแหน่ง (2 + 2 + 3) เบาะนั่งแถวที่ 2 เป็นแบบ Captain Seat ในขณะที่รุ่น Highway Star V จะมาพร้อมเบาะนั่ง 8 ตำแหน่ง (2 + 3 + 3) เบาะนั่งแถวที่ 2 มีระยะรางเลื่อนยาวถึง 640 มิลลิเมตร พนักพิงหลังตำแหน่งกลางสามารถพับลงมาเป็นพนักวางแขนพร้อมช่องวางของได้ วัสดุหุ้มเบาะนั่งเป็นผ้าสีดำ เดินตะเข็บด้ายสีส้ม เน้นความ Sporty เช่นเดียวกับภายนอก
แผงแดชบอร์ดด้านหน้า มีการติดตั้งชุดมาตรวัดแบบ Digital หน้าจอสี TFT ขนาด 12.3 นิ้ว เสริมการทำงานด้วยระบบ Head-up Display ที่อยู่กันเป็นหน้าจอกลางระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 12.3 นิ้ว ถัดลงมาด้านล่างเป็นแผงสวิตช์ควบคุมเครื่องปรับอากาศ พร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ Digital รวมถึงสวิตช์เกียร์แบบ Button Shiter (Shift-by-wire) ทั้งหมดถูกออกแบบให้อยู่บนคอนโซลหน้า เพื่อให้มีพื้นที่วางขามากที่สุด และสามารถเคลื่อนตัวจากฝั่งซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้ายได้อย่างสะดวก
นอกจากนี้ ยังติดตั้งอุปกรณ์ความบันเทิงและอุปกรณ์อำนวยมาให้ อาทิ หน้าจอชุดเครื่องเสียง ขนาด 11 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ HDMI ถาดวางของพร้อมช่องวางแก้วด้านหลังเบาะหน้า 2 ตำแหน่ง ช่องชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้าแบบ USB Port ด้านหน้าเบาะหน้า 2 ตำแหน่ง รวมไปถึงม่านบังแดดบริเวณกระจกหน้าต่างตอนที่ 2 ด้วย
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
Engine & Drivetrain
ขับเคลื่อนล้อคู่หน้าด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า EM57 AC3 Synchronous Motor กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 315 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ติดตั้งบริเวณใต้เบาะคู่หน้า
โดยมีเครื่องยนต์รหัส HR14DDe เบนซิน 3 สูบ 1.4 ลิตร 1,443 ซีซี. Direct Injection DOHC 16 วาล์วกระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 78.0 x 100.0 มิลลิเมตร (ขยายความจุจากบล๊อค HR12DE เดิม) กำลังอัด 13.0 : 1 กำลังสูงสุด 98 แรงม้า (PS) ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร ที่ 5,600 รอบ/นาที ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้าให้กับมอเตอร์ ความจุถังน้ำมัน 52 ลิตร
โหมดการขับขี่มีให้เลือก 3 รูปแบบ ได้แก่
- Standard Mode
- ECO Mode
- Sport Mode
นอกจากนี้ ยังมีโหมดคันเร่งแบบ e-Pedal มาให้ด้วยเช่นกัน
ด้านความปลอดภัย ได้รับการติดตั้งระบบ 360 Safrty Assist ประกอบไปด้วยระบบต่างๆ ดังน้ี
- ระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ProPilot 2.0
- ระบบบังคับพวงมาลัยเพื่อหลีกเลี่ยงการชน Collision Avoidance Steering Assist
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Intelligent Emergency Brake
- ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Prediction Warning
- ระบบไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive LED headlight system
- ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ Leading vehicle departure notice
- ระบบแจ้งเตือนป้ายจราจร Sign detection function
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Departure Prevention System
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning
- ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาด้านข้าง Rear Side Vehicle Detection Warning
- ระบบแจ้งเตือนเมื่อเปลี่ยนเลน ขณะมีรถอยู่ในจุดอับสายตาด้านข้าง Rear Side Collision Prevention System
ความคืบหน้าของการเปิดตัว Nissan Serena Highway Star V เวอร์ชั่นไทย สามารถติดตามต่อได้ทาง www.Headlightmag.com