ภาพคันจริง + ตัวเลขอัตราเร่งเบื้องต้น GWM Tank 500 Hybrid SUV

All NEW GWM Tank 500 HEV ที่เตรียมออกจำหน่ายในไทย มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่

  • Tank 500 HEV PRO
  • Tank 500 HEV ULTRA

ผลิตในประเทศไทย ณ โรงงาน GWM Rayong Plant เตรียมประกาศราคาจำหน่าย วันที่ 28 กันยายน นี้

 

สีตัวถังภายนอก
Exterior Colors

มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่

  • สีขาว
  • สีดำ
  • สีเทา
  • สีแดง
  • สีเทาคริสตัล (เฉพาะรุ่น ULTRA)

ขนาดและมิติตัวถัง
Dimension

  • ความยาว  5,078 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง  1,934 มิลลิเมตร
  • ความสูง  1,905 มิลลิเมตร
  • ความยาวฐานล้อ  2,850 มิลลิเมตร
  • ระยะต่ำสุดใต้ท้องรถ  224 มิลลิเมตร

เทียบขนาดกับ SUV รุ่นอื่นๆ (ยาว x กว้าง x สูง / ฐานล้อ)

  • Tank 500 HEV :  5,078 x 1,934 x 1,905 / 2,850 มิลลิเมตร
  • Toyota Fortuner : 4,795 x 1,855 x 1,835 / 2,750 มิลลิเมตร
  • Toyota Land Cruiser 300 : 5,115 x 1,980 x 1,945 / 2,850 มิลลิเมตร
  • BMW X5 (G05) : 4,922 x 2,004 x 1,745 / 2,975 มิลลิเมตร

 

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
Engine & Drivetrain

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศ VGT Turbocharged กำลังสูงสุด 244 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 106 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 268 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ ความจุ 1.7 kWh กำลังรวมสูงสุดทั้งระบบ 350 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 616 นิวตันเมตร จับคู่กับเกัยร์อัตโนมัติ DHT ขับเคลื่อน 4 ล้อ

โหมดการขับขี่ มีให้เลือก 11 รูปแบบ

  • Normal โหมดการขับขี่แบบปกติทั่วไป (ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
  • Sport เน้นการตอบสนองที่รวดเร็ว พยายามใช้เกียร์ต่ำ คารอบสูงเอาไว้ (ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
  • Eco เน้นความประหยัดน้ำมันเป็นหลัก (ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง)
  • Auto ปรับรูปแบบการตอบสนองอัตโนมัติ
  • Mud โหมดการขับขี่บนพื้นโคลน ใช้เกียร์ต่ำ รอบสูง ปิดระบบ ESC และ VDC (ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
  • Sand โหมดการขับขี่บนพื้นทราย ใช้เกียร์ต่ำ รอบสูง เปิดระบบล็อกเฟืองขับ(ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
  • Rock โหมดการขับขี่บนพื้นหินขนาดใหญ่ เปิดระบบล็อกเฟืองขับ (ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
  • 4H โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ความเร็วสูง 
  • Snow โหมดการขับขี่บนพื้นลื่น ใช้เกียร์สูง รอบต่ำ การตอบสนองคันเร่งช้าลง ป้องกันล้อหมุนฟรี (ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
  • 4L โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ความเร็วต่ำ ปรับอัตราทดเฟืองท้ายสูง เพิ่มกำลังฉุดลาก 
  • Expert สามารถตั้งค่าระบบต่างๆ แยกกัน อาทิ ระบบขับเคลื่อน โหมดการขับขี่ นำ้หนักพวงมาลัย และการทำงานของระบบช่วยเหลือการทรงตัว

Tank 500 HEV มาพร้อมเทคโนโลยีขี่แบบ Off-road ได้แก่

  • ระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง (Electric Differential Lock Front & Rear)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบออฟโรด (Off-road cruise control)
  • ระบบกลับรถในที่แคบ TANK Turn (ระบบเบรกที่ล้อหลังเพื่อลดรัศมีวงเลี้ยวในความเร็วตำ่)
  • ระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body transparent)
  • หน้าจอแสดงระดับน้ำนอกตัวรถ ขณะขับลุยน้ำ Wading Detection

ระบบกันสะเทือน
Suspension

  • ด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ Double Cross Arm
  • ด้านหลังเป็นแบบคานแข็ง พร้อม Multi-link

ระบบบังคับเลี้ยว
Steering Wheel

พวงมาลัยเป็นแบบ Rack & Pinion พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า EPS (Electronic Power Steering)

ปรับน้ำหนักพวงมาลัยได้ 3 ระดับ ได้แก่

  • Light
  • Comfort
  • Sport

 

อุปกรณ์ภายนอก
Exterior Options

  • ไฟหน้า Intelligent LED
  • ไฟส่องทางหลังดับเครื่อง Follow me home
  • ไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน Daytime Running Light แบบ LED
  • ไฟตัดหมอกด้านหน้าแบบ LED
  • ประตูท้ายบานสวิง พร้อมระบบดูดไฟฟ้า
  • ไฟท้าย Vertical LED
  • ยางอะไหล่แบบติดตั้งบนประตูท้าย
  • ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
  • ไฟตัดหมอกแบบ LED
  • หลังคาซันรูฟแบบ Panoramic เปิด – ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
  • เสาอากาศแบบ Shark Fin
  • บันไดข้างระบบไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชันเปิด – ปิดอัตโนมัติ เมื่อเปิด – ปิดประตู
  • สปอยเลอร์หลัง
  • ล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว
  • ยาง ขนาด 265/50 R20

 

อุปกรณ์ภายใน
Interior Options

  • เบาะหนังหุ้มด้วยหนัง Nappa
  • ภายในตกแต่งด้วยวัสดุสีดำ และสีเงิน
  • ภายในตกแต่งด้วยวัสดุเปียโนแบล็ก และโครเมียม
  • ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร Ambient Light
  • นาฬิกาแบบอนาล็อก บริเวณคอนโซลหน้า
  • เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • เบาะนั่งคนขับพร้อม Memory Seat
  • เบาะนั่งคนขับ พร้อมระบบนวดไฟฟ้า
  • ระบบเลื่อนเบาะนั่งอัตโนมัติเมื่อเปิด – ปิดประตู Welcome Seat
  • เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง
  • สวิตช์ปรับเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า จากฝั่งคนขับ
  • เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับเลื่อนขึ้นหน้า – ถอยหลังได้
  • เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับเอนได้ 60 : 40
  • เบาะนั่งแถวที่ 2 พร้อมระบบระบายอากาศ
  • เบาะนั่งแถวที่ 3 พับด้วยสวิตช์ไฟฟ้าด้านหลัง และด้านข้างประตู
  • เบาะนั่งแถวที่ 3 พับได้ 50 : 50
  • หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ Digital ขนาด 12.3 นิ้ว
  • หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านบังลมหน้า (Head-up Display)
  • หน้าจอกลางระบบสัมผัส ขนาด 14.6 นิ้ว
  • ระบบรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto,
  • ชุดเครื่องเสียง Infinity
  • ลำโพง 12 ตำแหน่ง
  • ระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ
  • พวงมาลัย สามารถปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง
  • คันเกียร์แบบไฟฟ้า Electronic Shifter
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ (Paddle Shift)
  • เครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
  • กรองอากาศ PM 2.5
  • แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย Wireless Charger
  • กุญแจแบบ Smart Keyless พร้อมระบบ Walk-away Door Lock

 

ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่
Safety Features & Driving Assistance

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ Intelligent ACC
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ TJA 
  • ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ IIP
    • แนวตรง
    • แนวจอดเทียบข้าง
    • แนวเฉียง
  • ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ ARA เมื่อใช้ความเร็วต่ำกว่า 30 km/h ถอยหลังกลับได้ไกลสุด 50 เมตรโดยอัตโนมัติ
  • กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ตั้งค่าให้แสดงผลอัตโนมัติได้ที่ความเร็วไม่เกิน 30 km/h 
  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก AEBI 
  • ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA & RCTB 
  • เซนเซอร์กะระยะด้านหน้า 6 ตำแหน่ง
  • เซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 6 ตำแหน่ง
  • ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง WDS
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW 
  • ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน LCK 
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน ELK 
  • ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 SCM
  • ระบบช่วยลงทางลาดชัน HDC
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน HSA 
  • ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW 
  • ระบบตรวจความดันลมยาง TPMS

 

ตัวเลขสมรรถนะเบื้องต้น ทดสอบใกล้เคียงมาตรฐานปกติของ Headlightmag.com

การทดลองขับ Tank 500 Hybrid ในครั้งนี้ แม้จะมีระยะเวลาไม่นานนัก ทว่าเราพยายามหาจังหวะจับเวลาอัตราเร่ง ทั้งอัตราเร่งช่วงออกตัว 0 – 100 km/h และอัตราเร่งแซง 80 – 120 km/h โดยมีตัวแปรต่างๆ ให้ใกล้เคียงกับมาตรฐานการทดสอบปกติของ Headlightmag มากที่สุด นั่ง 2 คน น้ำหนักรวมไม่เกิน 170 กิโลกรัม เปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศา ทดสอบในช่วงกลางวันที่มีอุณหภูมิภายนอกสูงกว่ากลางคืน ดังนั้นตัวเลขที่ออกมาจึงพอที่จะอ้างอิงเป็นแนวทางได้ แต่ไม่แนะนำให้เอาไปเปรียบเทียบโดยตรงอย่างละเอียดระดับจุดทศนิยมกับตัวเลขในตารางผลทดสอบปกติ

อัตราเร่ง

  • อัตราเร่ง 0 – 100 km/h ทำได้เฉลี่ย 8.82 วินาที
  • อัตราเร่ง 80 – 120 km/h ทำได้เฉลี่ย 6.62 วินาที

(โหมด Normal และ Mode Sport ได้ตัวเลขไม่แตกต่างกัน)

รอบเครื่องยนต์ในละช่วงความเร็ว

  • ความเร็วบนมาตรวัด 80 km/h @ 1,500 รอบ/นาที
  • ความเร็วบนมาตรวัด 90 km/h @ 1,900 รอบ/นาที
  • ความเร็วบนมาตรวัด 110 km/h @ 2,100 รอบ/นาที

ความเร็วบนมาตรวัดเทียบความเร็วบน GPS

  • ความเร็วบนมาตรวัด เทียบความเร็วบน GPS
    • มาตรวัด 100 km/h > GPS 96.0 km/h
    • มาตรวัด 110 km/h > GPS 106.0 km/h

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ Click Here