Nissan Murano เจเนอเรชั่นปัจจุบันเปิดตัวเมื่อปี 2014 โดยใช้เวทีงานมหกรรมยานยนต์ New York Auto Show จนกระทั่งมีอายุการตลาดยาวนานมากกว่า 8 ปี และผ่านการปรับโฉมเพื่อกระตุ้นยอดขายมาก่อนหน้านี้ จนกระทั่งยอดขายได้ตกลงในปี 2022 เหลือเพียง 30,074 คัน ซึ่งน้อยกว่ายอดขายของปี 2021 ที่ขายไปได้มากกว่า 46,117 คัน ซึ่งสร้างความสงสัยให้กับบรรดาแฟนๆแบรนด์ Nissan ถึงอนาคตของรถ SUV ขนาดกลางในตลาดอเมริกาเหนือ ว่าจะมีเจเนอเรชั่นต่อไปหรือไม่

 

โดยรถทดสอบคันนี้ได้ถูกถ่ายได้บนถนนหลวงที่อยู่ใกล้ออฟฟิศในมลรัฐ Michigan ภายใต้การพรางตัวที่ซ่อนแนวทางการออกแบบธีม V-Motion ที่ได้รับการปรับปรุงนับตั้งแต่ X-Trail เจเนอเรชั่นปัจจุบัน T33 โดยมาพร้อมกับกระจังหน้าขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น ทำให้ไฟหน้าถูกปรับให้มีขนาดเล็กลงและเผื่อพื้นที่ให้กับ ไฟตกแต่งกระจังหน้าที่เพิ่มเติมเข้ามาใหม่ พร้อมด้วยช่องดักลมบริเวณด้านล่างของกันชนหน้าที่มีขนาดเล็กลงเช่นเดียวกัน

 

สัดส่วนโดยรวมของตัวถัง Murano มีความใกล้เคียงกันกับเจเนอเรชั่นปัจจุบัน รวมไปถึงเส้นสายบริเวณหลังคาที่มีการซ่อนเสา C ไว้ให้เรียบเนียนไปกับกระจกรอบคัน พร้อมด้วยการตกแต่งหลังคาในรูปแบบ floating-roof ทำให้ภาพรวมของตัวรถมีความใกล้เคียงกับรุ่นปัจจุบัน ขณะที่ด้านท้ายมาพร้อมกับไฟที่มีขนาดเล็กลงเพื่อให้สอดรับกับไฟหน้า รวมไปถึงการปรับให้กันชนหลังมีขนาดเล็กลงและปรับตำแหน่งของป้ายทะเบียน

 

เมื่อสังเกตบริเวณกันชนท้ายที่ติดตั้งแผ่นดิฟฟิวเซอร์ พร้อมด้วยปลายท่อไอเสียคู่ ซึ่งมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน V6 ความจุ 3.5 ลิตร ที่เป็นขุมพลังประจำการอยู่ในรถ Nissan หลากรุ่นที่จำหน่ายอยู่ในอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2010 แต่ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะลูกใหม่

ทั้งหมดนี้ยังคงใช้งานวิศวกรรมพื้นฐานจากรถตระกูล D segment ของค่าย ร่วมกันกับรถแบรนด์ Nissan และ Infiniti ซึ่งจะมีกำหนดการเปิดตัวในปี 2024 และวางจำหน่ายในปี 2025

ที่มา: Automedia