ใครนี่กำลังร้องเพลงรอรถสปอร์ตผมกำลังไฟฟ้าล้วนรูปทรงสดโฉบเฉี่ยว แถมด้วยฟังก์ชันเปิดหลังคาจากค่าย MG บัดนี้ใกล้ถึงเวลาของพวกท่านแล้ว เมื่อนับเวลาที่เป็นการรอคอยที่ยาวนานกว่า 2 ปี หลังจากทางค่ายได้เริ่มเผยลดต้นแบบคันจริงก่อนที่จะเริ่มเปิดรับลงทะเบียนสำหรับผู้ที่สนใจที่จะครอบครองรถสปอร์ตรุ่น Cyberster

 

และถึงแม้จะมีการนำรถเวอร์ชั่นผลิตจริงไปวิ่งโชว์ตัวในงานเทศกาลรถยนต์คลาสสิคและรถสปอร์ตสุดหรูอย่าง Goodwood Festival of Speed ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 2023 ทางค่ายก็ยังคงอบงานออกแบบภายในไว้ทั้งหมดจนกระทั่งต้องรอถึงงานมหกรรมยานยนต์ Chengdu Motor Show 2023 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2023

 

มิติตัวถังรถ

  • ความยาว 4,534 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง 1,913 มิลลิเมตร
  • ความสูง 1,329 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ 2,690 มิลลิเมตร

 

ภายในของรุ่นท็อปสุดจะมาพร้อมกับการตกแต่งแบบทันสมัย และเลือกใช้สีแดงสดเป็นหลัก ได้กลิ่นอายจากรถสปอร์ตเมืองมะกันอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบให้มีชิ้นส่วนบริเวณคอนโซลกลางที่เป็นสันเพื่อกั้นพื้นที่ระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เพื่อทำให้พื้นที่รอบผู้ขับขี่ถูกจัดไว้โดยที่เน้นการใช้งานได้สะดวกสูงสุด

จอมาตรวัดทรงโค้งขนาดใหญ่ รูปทรงทันสมัยที่ทำงานภายใต้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8155 และการจัดการกราฟิกจาก Unreal Engine 4.0 รวมไปถึงการติดตั้งแผงควบคุมระบบปรับอากาศโดยใช้ระบบสัมผัส

 

ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ในรุ่นแรงสุดสร้างพละกำลังระดับ 536 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 725 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 3.2 วินาที ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ความจุ 77 kWh ซึ่งให้ระยะทางสูงสุด 576 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC ซึ่งโดยปกติจะมากกว่ามาตรฐาน WLTP และ EPA พร้อมด้วยระบบเบรกจาก Brembo ด้วยคาลิปเปอร์แบบ 4 ลูกสูบที่คู่หน้า พร้อมด้วยเหล็กกันโคลงความแข็งแรงสูง เพื่อรับมือกับสมรรถนะระดับรถแข่งในสนาม

นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีทางเลือกขุมพลังมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า แต่จะจับคู่กับแบตเตอรี่ความจุ 64 kWh และสามารถให้ระยะทางสูงสุดโดยคำนวณจากมาตรฐาน CLTC ได้ 517 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม ยังคงเหลือข้อมูลด้านราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ยังคงต้องรอการประกาศจาก MG อีกครั้งหนึ่ง ทั้งประเทศที่จะไปทำตลาด นอกเหนือไปจากประเทศจีนและอังกฤษบ้านเกิดของรถสปอร์ตค่ายนี้ รวมไปถึงราคาจำหน่ายในประเทศไทยเช่นเดียวกัน

ที่มา: Motor1