เมื่อใกล้หมดวาระของ Mini Hatch 3 ประตู เจเนอเรชั่นปัจจุบัน ทางค่ายก็ทยอยเปิดตัวรุ่นพิเศษออกมาเพื่อให้แฟนๆได้จับจองสะสมกันตามวาระ โดยในครั้งนี้ เป็นการนำตัวแสบรุ่น John Cooper Works มาพัฒนาต่อยอดโดยทีมแข่งคู่บุญอย่าง Bulldog Racing team สัญชาติเยอรมันที่มีฐานทัพอยู่ที่ Nürburg หลังจากพารถแข่ง Mini เข้าสู่เส้นชัยรายการ 24 Hours of Nürburgring ปี 2023 เป็นอันดับที่ 2 รุ่นรถยนต์ดัดแปลงจากเวอร์ชั่นรถถนนความจุเครื่องยนต์ 1,600 ถึง 2,000 ซีซี พ่วงระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์
ซึ่งเจ้า Mini John Cooper Works เวอร์ชั่น 3 ประตูที่เห็นอยู่นี้ ได้รับการอัพเกรดด้านสมรรถนะเป็นหลัก มากกว่าความสวยงามภายนอก-ภายใน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งของทีม Bulldog Racing ถึงแม้ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของขุมพลังและระบบส่งกำลัง แต่ทว่าได้มีการติดตั้งชุดไอเสียใหม่จาก Remus ซึ่งตัวเลขสมรรถนะของเครื่องยนต์ยังคงเหมือนกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 1,998 ซีซี พ่วงระบบอัดอากาศ TwinPower Turbo พร้อมระบบ Double VANOS และ Valvetronic กำลังสูงสุด 231 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า
โดยระบบช่วงล่างได้ทำการอัพเกรดไปใช้ของ KW V3 พร้อมด้วยระบบเบรกคู่หน้าคาลิปเปอร์แบบ 4 พ๊อต พร้อมด้วยล้ออัลลอยจาก OZ รุ่น HyperGT ขนาด 17 นิ้ว รัดด้วยยางจาก Pirelli P Zero ขนาด 205/45 R17
ภายนอกเพิ่มเติมโลโก้จากทีม Bulldog Racing บริเวณท้ายรถ เสา B และดุมล้ออัลลอยทั้ง 4 วง พร้อมสติ๊กเกอร์แทร็ค Nurburgring ที่บริเวณขอบด้านในของกระจกมองข้างสีดำ
สำหรับภายในมาในลุครถแข่งเต็มพิกัดด้วยการถอดเบาะโดยสารตอนหลังออก แทนที่ด้วยชุดโรลบาร์และตาข่ายตามสไตล์รถแข่ง ทั้งหมดนี้เพื่อเป็นการลดน้ำหนักที่ไม่จำเป็น เพิ่มเติมความพิเศษด้วยแผ่นเพลทบ่งบอกความจำนวนจำกัดบริเวณใต้คันเบรกมือและคอนโซลหน้าฝั่งผู้โดยสาร พร้อมด้วยตราสัญลักษณ์ทีม Bulldog Racing บริเวณพวงมาลัยและแผงควบคุมไฟอ่านแผนที่
เป็นการตอกย้ำถึงเส้นทางการปรับแต่ง Mini จากทีม Bulldog Racing ให้เป็นไปตามความต้องการของผู้ขับขี่ นับตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา ที่มีลูกค้าแฟนๆ Mini เข้าไปใช้บริการอย่างไม่ขาดสาย
ที่มา: Motor1