Caterham ค่ายรถยนต์สปอร์ตล้อเปิดแห่งเมืองผู้ดี ที่เคยมีข่าวหลุดมาก่อนหน้านี้ว่าจะเปิดตัวรถสปอร์ต EV ทรงล้ำสมัยใหม่หมดจด ในงาน Goodwood Festival of Speed 2023 นี้ จนกระทั่งกำหนดการเปิดตัวได้ เกิดขึ้นในวันที่ 12 กรกฎาคม 2023 นี้ ซึ่งเป็นการนำรถสปอร์ต Lotus Seven มาพัฒนาต่อยอด เนื่องจากมีพื้นฐานเป็นรถน้ำหนักเบาแต่กำเนิด พร้อมพื้นฐานระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และถือว่าเป็นเป็นการมาก่อนกาล เนื่องจาก Lotus เองจะเปิดตัวรถสปอร์ต EV รุ่นแรกในปี 2025

เส้นสายที่ถูกรังสรรค์โดย Anthony Jannarelly ที่เข้ามารับตำแหน่ง Chief Designer คนใหม่ไปหมาดๆ ที่ได้รับโจทย์สำคัญว่า รถคันนี้ต้องมีภาพลักษณ์การเป็นรถ EV อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมกับการติดตั้งที่นั่งจำนวน 2 แถวเป็นมาตรฐานในรูปแบบ 2+1 หรือสามารถอัพเกรดเป็นแบบ 2+2 ก็ได้เช่นเดียวกัน โดยที่ยังเผื่อความสบายยามโดยสารให้กับผู้โดยสารตอนหลังอย่างไร้ความกังวล

 

โครงสร้างตัวถังทำจากคาร์บอนไฟเบอร์และอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง ทำให้น้ำหนักรถยนต์เหลือเพียง 1,190 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังมีการใช้วัสดุคอมโพสิทมาแทนวัสดุปกติ

ภายในได้รับการออกแบบให้มีความคลีนและมินิมอลขั้นสุด มาพร้อมกับหน้ากากแอร์ทรงกลม ติดตั้งคู่กับมาตรวัดขนาดเล็ก 3 ช่องกลมอย่างเรียบเนียน เป็นการคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของรถสปอร์ตที่เน้นความดิบในการขับขี่เป็นหลัก พร้อมกับหน้าจอมาตรวัดทรงกลมคู่แบบ Full Digital และปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศแบบสวิตช์คันโยกตามสไตล์รถแข่ง ที่สามารถเปลี่ยนโหมดการขับขี่ระหว่าง Normal Sport และ Sprint ได้ เพื่อปรับอัตราการตอบสนองของการทำงานของชุดส่งกำลัง ช่วงล่าง และระบบบังคับควบคุม นอกจากนี้ยังมาพร้อมหน้าจอ Infotainment ที่ใช้งานได้เหมือนรถยนต์นั่งทั่วไป พร้อมการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น

 

ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว Permanent magnet synchronous 400V ให้พละกำลังสูงสุด 272 แรงม้า (PS) ส่งกำลังผ่านล้อคู่หลัง ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ขนาด 55 kWh พร้อมระบบจัดการอุณหภูมิ advanced thermal management และสามารถชาร์จเร็วไฟฟ้ากระแสตรงกำลังไฟสูงสุด 150 kW จาก 20-80% ได้ภายในเวลา 15 นาที เมื่อชาร์จเต็มสามารถวิ่งได้เป็นระยะทาง 400 กิโลเมตร

  • อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 4.5 นาที
  • ความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม.

 

อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนของการพัฒนารถรุ่นนี้ยังอยู่ในแนวคิดแบบ ”ทำไป เรียนรู้ไป” มากกว่าที่จะทำแล้วพร้อมเพื่อการผลิตขายจริงในทันที เนื่องด้วยเป็นรุ่นแรกที่ใช้ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าล้วน และนี่ก็เป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้เวอร์ชั่นจำหน่ายจริงของ Project V จะพร้อมขายในช่วงปี 2025 ในเวลาไล่เลี่ยกันกับกำหนดการเปิดตัวของรถสปอร์ต EV ของแบรนด์ Lotus

ประเด็นสำคัญก็คือ Project V ไม่ได้มาแทนรถสปอร์ตในปัจจุบันแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นยุคหน้าของรถสปอร์ตที่คาดว่าจะเข้ามาเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่ชื่นชอบรถสปอร์ตน้ำหนักเบา แต่อยากได้แรงกระชากจากชุดขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า รวมไปถึงรูปแบบตัวถัง Coupe หลังคาแข็ง ที่มีพื้นที่ให้กับผู้โดยสารมากพอ พร้อมการขนสัมภาระไปเที่ยวในระยะทางไกลได้ และพร้อมที่จะเชิญชวนให้ลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างจาก Project V นี้ พร้อมราคาจำหน่ายประมาณ 80,000 ปอนด์ หรือประมาณ 3,591,493 บาท

ที่มา: Motor1