Xpeng เปิดตัวรถ EV รุ่นใหม่เพื่อเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Tesla Model Y โดยเดินกลยุทธ์ทางการตลาดด้วยราคาจำหน่ายถูกกว่าถึง 20% ท่ามกลางกระแสการต่อสู้ด้านราคาที่กำลังเป็นกระแสว่าค่ายรถยนต์ต่างพากันลดราคาจำหน่ายไม่เว้นแม้แต่ Tesla เอง เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าและเพิ่มอัตราการแข่งขันในตลาด EV พร้อมชิงส่วนแบ่งของรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน

 

แบรนด์ Xpeng วางตำแหน่งไว้เป็นแบรนด์พรีเมียม ซึ่งมีราคาจำหน่ายแพงกว่าแบรนด์รถยนต์จากแดนมังกรรายอื่นๆ แต่ด้วยแนวทางการดำเนินธุรกิจ ทางผู้บริหารจึงได้ให้ความมั่นใจว่า Xpeng จะเป็นผู้นำเทคโนโลยียุคหน้า ที่จะพร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการ EV ฉีกข้อจำกัดเดิมๆ ของภาพลักษณ์แบรนด์รถยนต์จากแดนมังกร

ยิ่งไปกว่านั้น Xpeng ยังเปิดรับจอง G6 ล่วงหน้า และได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นจำนวนกว่า 25,000 ออเดอร์ ภายในเวลา 72 ชั่วโมง ของการเปิด Pre-order ในประเทศบ้านเกิด เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการรตลาดจากผู้นำอย่าง Tesla และ BYD

 

Xpeng G6 นับเป็นรถ EV รุ่นแรกที่ใช้งานวิศวกรรมพื้นฐาน SEPA2.0 ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีวัสดุที่ทำจากอะลูมิเนียมในช่วงด้านหน้าและหลังของโครงสร้างตัวถังในรูปแบบ Unibody ให้ได้มากที่สุด เพื่อลดต้นทุนในการผลิต โดยแบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย ได้แก่ 580 Long Range Max 580 Long Range Max Pro 755 Super Long Range Max 755 Super Long Range Max Pro และ 700 4WD Performance Max ซึ่งตัวเลขของแต่ละรุ่นย่อย ก็คือระยะทางวิ่งได้สูงสุดในแต่ละรอบการชาร์จนั่นเอง

 

Xpeng ได้วางกลยุทธ์ในการทำตลาดในระยะยาวเพื่อต่อกรกับ Tesla มาโดยตลอด แต่ทว่า ยอดขายของ Xpeng ย้อนหลังในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2023 สามารถทำได้เพียง 32,815 คัน ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนลดลงกว่าช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2022 กว่า 38.9% ซึ่งเมื่อเทียบกับ Tesla แล้ว ยอดขายในช่วงเวลาเดียวกันสามารถขายรถไปได้มากกว่า 219,893 คัน ซึ่งในจำนวนนี้นับเป็น Model Y จำนวนกว่า 152,461 คัน

ที่มา: Carnewschina