เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2023 AITO หรือบริษัทผลิตรถ EV ภายใต้การลงทุนร่วมระหว่าง Huawei และ Seres ได้เปิดตัวรถ SUV ขุมพลัง Plug-in hybrid รุ่นปรับโฉมและเทคโนโลยีต่างๆ หลังจากเปิดตัวครั้งแรกในปี 2021
AITO M5 Standard Edition รุ่นไมเนอร์เชนจ์เปิดตัวในประเทศจีนพร้อมด้วยทางเลือกสีตัวถังภายนอกให้เลือกมั้ฃหมด 6 สี และยังมาพร้อมเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ทันสมัยหรือ level 2 advanced driving assistance system ที่ทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ที่ประโคมเข้ามาท่วมคัน ไม่ว่าจะเป็น มิลลิเมตรเรดาร์จำนวนกว่า 3 ตัว อัลตร้าโซนิคเรดาร์จำนวนกว่า 12 ตัว กล้องรอบคันกว่า 5 ตำแหน่ง เพื่อทำหน้าที่ส่งผ่านข้อมูลจากระบบเบรก ความเร็ว และพารามิเตอร์ต่างๆในการขับขี่ พร้อมระบบจัดการกำลังการขับเคลื่อน DATS (Dynamic Adaptive Torque System) เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวรถเกิดการสั่นสะเทือนจากแรงกระทำทุกทิศทางยามขับเคลื่อน
ภายนอกมาพร้อมกับการออกแบบเพื่อเอาชนะหลักการทางอากาศพลศาสตร์ ซึ่งโดยทั่วไป รถอเนกประสงค์มักจะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ หรือ Cd. มากกว่า 0.30 โดยในรุ่นนี้ทาง Huawei ตั้งใจออกแบบให้มีความพริ้วไหวมากกว่าปกติ ทำให้ค่า Cd. ลดลงจาก 0.32 เหลือเพียง 0.29 พร้อมด้วยการติดตั้งไฟหน้า ไฟท้ายที่มีความทันสมัย รวมไปถึงล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว
งานออกแบบคอนโซลด้านหน้ามาในรูปแบบเรียบง่าย ด้วยหน้าจอกลางแบบลอยตัวตามสมัยนิยม ขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมจอมาตรวัดแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว ทั้งคู่ทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการ Huawei Harmony OS 3.0 พร้อมกับการเน้นย้ำการใช้งานสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารคน ไม่ว่าจะเป็นที่วางแก้ว ที่เก็บของ รวมไปถึงที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายถึง 2 ตำแหน่ง พร้อมระบบเครื่องเสียงจาก Huawei Sound
ผู้โดยสารแถวหลังยังสามารถใช้งานแทปเลตที่ติดตั้งบริเวณด้านหลังของเบาะนั่งคู่หน้า ตามสไตล์รถอเนกประสงค์สำหรับพ่อบ้าน และแน่นอนการเป็น Huawei ย่อมมีความสะดวกในการนำเทคโนโลยีการสื่อสารและความบันเทิงต่างๆ โดยเฉพาะการนำมาปรับใช้กับเทคโนโลยียานยนต์ภายใต้ประสบการณ์การใช้งานที่เป็นมิตร หรือ Huawei MagLink ที่สามารถทำให้การเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ และการรับชมคอนเทนต์เป็นไปอย่างราบรื่น พร้อมกับการสั่งงานผ่านผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า
ขุมพลังเทคโนโลยี Huawei DriveONE ePowertrain platform ที่ประกอบไปด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร พ่วงระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์และมอเตอร์ไฟฟ้า โดยในรุ่นเริ่มต้นมาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลังพละกำลังสูงสุด 272 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 7.1 วินาที ขณะที่รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถให้พละกำลังสูงสุดกว่า 497 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 675 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 4.4 วินาที ทั้งคู่จับคู่กับแบตเตอรี่ความจุ 40 kWh และสามารถให้ระยะทางสูงสุดภายใต้พลัฃงานไฟฟ้าล้วนกว่า 260 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC และเมื่อรวมกับเครื่องยนต์เบนซินจะสามารถวิ่งได้ไกลสุดกว่า 1,455 กิโลเมตร
ที่มา: Carnewschina