Peugeot เตรียมเปิดตัวรุ่นปรับโฉมของ 208 ที่กวาดยอดขายไปตลอดอายุตลาดไปแล้วกว่า 206,816 คัน จนขึ้นแท่นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในยุโรปของปี 2022 ที่ผ่านมา เป็นการโค่นแชมป์หลายสมัยอย่าง Volkswagen Golf ที่ยึดตำแหน่งอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 14 ปี รวมทั้งเป็นการทวงคืนแชมป์เก่าที่ 207 เคยทำไว้เมื่อปี 2007 และเมื่อเวลาได้ล่วงเลยมาถึงกลางอายุตลาด หลังจากเปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมปี 2019 ทางค่ายสิงห์ยกขาจึงได้เตรียมเปิดตัวรุ่นปรับโฉม พร้อมทั้งพรางตัวรถทดสอบอย่างแน่นหนาในภาพถ่ายชุดนี้
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าแปลกใจว่า Peugeot เลือกที่จะเปิดตัวรุ่นปรับโฉมของ 2008 ก่อน ทั้งๆที่เปิดตัวตามหลัง 208 ในเดือนพฤษภาคม 2019 อาจจะด้วยปัจจัยภายในหรือการปรับไทม์ไลน์และแผนการดำเนินธุรกิจ แต่ก็คาดเดาได้ไม่ยากว่า 208 รุ่นปรับโฉมจะเตรียมเปิดตัวภายในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้อย่างแน่นอน พร้อมกับรุ่นฝาแฝดขุมพลังไฟฟ้าอย่าง e-208 ซึ่งในครั้งนี้เป็นพระเอกที่ถูกถ่ายภาพได้ระหว่างการทดสอบนั่นเอง
งานออกแบบด้านหน้ามีการพรางตัวไว้อย่างแน่นหนา จึงคาดเดาได้ว่าจะมาพร้อมกันชนใหม่และโลโก้ใหม่ด้วยเช่นกัน ขณะที่ด้านข้างมาพร้อมล้ออัลลอยติดตั้งฝาครอบเพื่อให้การไหลเวียนของอากาศเป็นไปตามหลักพลศาสตร์ ขณะที่ด้านท้ายมีการติดตั้งไฟท้ายแบบใหม่เช่นเดียวกับรุ่น 2008 พร้อมด้วยกองทัพล้ออัลลอยลายใหม่ให้เลือกตามแต่ละรุ่นย่อย ที่มีขนาดตั้งแต่ 16 ไปจนถึง 18 นิ้ว และคาดว่าจะมาพร้อมการตกแต่งด้วยทริมสีดำเงาในทุกรุ่นย่อย เสริมลุคสปอร์ต
สำหรับภาพแอบถ่ายภายในเผยให้เห็นรายละเอียด จอแสดงผลการเชื่อมต่อขนาดใหญ่ 10 นิ้ว ตรงกลางคอนโซลหน้า ขณะที่รุ่น Allure และ GT จะได้รับการติดตั้งจอมาตรวัดขนาด 10 นิ้ว พร้อมภาพกราฟิกแบบ 3 มิติ ในรุ่น GT รวมไปถึงการออกแบบหัวเกียร์ใหม่ในรุ่นเกียร์ธรรมดา ซึ่งทั้งหมดนี้จะใช้ร่วมกันกับ 2008
ชุดขุมพลังของรุ่น e-208 ที่แต่เดิมมาพร้อมกับ มอเตอร์เดี่ยวกำลังสูงสุด 136 แรงม้า (PS) แบตเตอรี่ความจุ 50 kWh คาดว่าจะได้รับการอัพเกรดเป็นมอเตอร์เดี่ยวกำลังสูงสุด 156 แรงม้า (PS) ที่ 10,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร ที่ 300 รอบ/นาที พ่วงด้วยแบตเตอรี่ความจุ 54 kWh เช่นเดียวกับ e-2008 ทำให้ระยะทางที่วิ่งได้สูงสุดเพิ่มขึ้นอีก 15% และสามารถชาร์จด้วย Quick Charge จาก 0 – 80% ภายในเวลา 30 นาที ด้วยกำลังไฟฟ้าสูงสุด 100kW
2008 และ e-208 คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2023 นี้ และจะพร้อมส่งมอบในช่วงต้นปี 2024 เป็นต้นไป
ที่มา: Automedia