BYD กำลังรุกตลาดรถ EV อย่างต่อเนื่อง โดยมีทั้ง Dynasty series และ Ocean series เพื่อแบ่งรูปแบบเส้นสายตัวถังเพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะ Dynasty series ที่จับกลุ่มตลาดหรูหรามากกว่า เน้นความมีระดับและพรีเมียม โดยมีรถ SUV ขนาดใหญ่อย่าง Song ที่วางจำหน่ายและสร้างยอดขายเป็นที่น่าพอใจไปเป็นระยะเวลา 2 ปี แล้ว

อย่างไรก็ตาม ยังมีช่องว่างทางการตลาดสำหรับรถ SUV ตัวถังทรง Coupe ท้ายลาด ที่ไปแข่งขันกับรถหรูจากแบรนด์ยุโรปได้อย่างไม่เคอะเขิน จึงได้เตรียมเปิดตัว Song L ที่เคยเป็ดให้ชมเป็นน้ำจิ้มผ่านเส้นสายของรถต้นแบบรุ่น Song L concept ที่งาน Shanghai Auto 2023 เดือนเมษายน ที่ผ่านมา

 

งานออกแบบภายนอกมีความคล้ายคลึงกับ Dynasty series รุ่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Han Tang Yuan Plus (Atto 3) Song Plus และ Song Pro โดยถูกวางตำแหน่งไว้แข่งกับ Tesla Model Y เป็นหลัก โดยงานวิศวกรรมพื้นฐานของ Song L จะใช้ e-platform 3.0 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบ CTB (cell-to-body) โดยใช้แบตเตอรี่แบบ LFP Blade

Song L จะมาพร้อมกระจกหน้าต่างแบบไร้กรอบ ด้วยแนวคิดออกแบบ Vanguard Dragon Beauty พร้อมสปอยเลอร์ทำงานด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงชื่อยี่ห้อ Build Your Dreams ที่อาจไม่ได้มาเป็นชื่อเต็มเหมือนรุ่นปัจจุบัน และยังมาพร้อมโลโก้เฉพาะรุ่นตามสไตล์ Dynasty series ที่ด้านหน้าตัวรถ

ทางด้านขุมพลังคาดว่าจะมาพร้อมสมรรถนะสูงกว่ารถ BYD รุ่นอื่นๆ โดยเฉพาะมอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมช่วงล่างจาก DiSuS A suspension control system พร้อมรับมือความแรงทะลุ 500 แรงม้า

 

BYD จะพร้อมเปิดตัว Song L ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2023 นี้ พร้อมราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 300,000 หยวน หรือประมาณ 1,475,025 บาท เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายยอดขายรถกลุ่มพลังงานใหม่หรือรถเสียบปลั๊ก new energy vehicles (NEVs) เป็นจำนวนสะสม 3 ล้านคัน ภายในปี 2023 นี้

เมื่อพิจารณายอดขายที่ก้าวกระโดดของเดือนพฤษภาคมปี 2023 ที่ขายไปได้มากกว่า 240,220 คัน ที่มากกว่าเดือนเดียวกันของปี 2022 เป็นอัตราส่วนมากกว่า 108% ในขณะที่ยอดขายตลอดปี 2023 BYD ก็ขายไปได้มากกว่า 996,476 คัน

ที่มา: Carnewschina