Maruti Suzuki ผู้ที่ครองส่วนแบ่งและฐานลูกค้าชาวอินเดียมาเป็นเวลานานเมื่อเทียบกับค่ายญี่ปุ่นอื่นๆ โดยมักจะมีความเชี่ยวชาญในรถยนต์ขนาดเล็กไม่ว่าจะเป็นรถยนต์นั่ง และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ซึ่งล่าสุดทางค่ายได้เปิดตัว Tour H1 เพื่อเสริมทัพ Tour H3 (พื้นฐาน Wagon-R) Tour S (พื้นฐาน Dzire) Tour V (พื้นฐาน Eeco) และ Tour M (พื้นฐาน Ertiga) ที่มาพร้อมกับหน้าตาที่บ่งบอกวัตถุประสงค์ของรถคันนี้อย่างชัดเจน

 

ภายนอกมาพร้อมกับกันชนหน้าและหลังแบบสีดำพลาสติกไม่ทำสี พร้อมด้วยล้อเหล็กคู่ใจไร้ฝาตบ ตัวถังภายนอกยังคงใช้งานออกแบบร่วมกับรุ่นพื้นฐานอย่าง Alto K10 ที่เปิดตัวสำหรับตลาดอินเดียโดยเฉพาะไปเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลคเตอร์ ไร้ซึ่งเทคโนโลยี LED หรือไฟ Dyatime running light แต่อย่างใด หรือแม้กระทั่งเสาอากาศยังถูกตัดออก และมีสีภายนอกให้เลือกเพียงแค่ 3 สี ได้แก่ สีเงิน Metallic Silky Silver สีเทา Metallic Granite Grey และสีขาว Arctic White

 

ภายในมาพร้อมกับความเรียบง่ายขั้นสุด โดยเฉพาะหน้าจอแสดงผลที่ถูกตัดออกและเหลือไว้เพียงหน้าจอมาตรวัดสำหรับผู้ขับขี่ แต่ก็ยังมีถุงลมนิรภัยติดตั้งมาให้คู่หน้า รวมไปถึงระบบปรับอากาศและช่องเก็บสัมภาระตามการใช้งานจริง โดยยังติดตั้งเบาะนั่งแถวหลังพร้อมหมอนรองศีรษะมาให้ ไม่เหมือนกับรถ LCV (Light commercial vehicle) หรือรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก เวอร์ชั่นยุโรป ที่จะมาพร้อมกับพื้นห้องเก็บสัมภาระแบบเรียบสนิท พร้อมการกั้นพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วนระหว่างเบาะผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลัง ไร้ซึ่งเบาะนั่งสำหรับการโดยสารแต่อย่างใด พร้อมกับการติดตั้งกระจกประตูคู่หลัง ไม่ใช่ปิดทึบแบบ LCV เวอร์ชั่นยุโรป

 

เครื่องยนต์ที่ใช้จะเป็นรหัส K10B 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร 998 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 73.0 x 79.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.0 : 1 กำลังสูงสุด 67 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 89 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะเท่านั้น ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันเบนซินปกติ พร้อมอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 24.60 กิโลเมตร/ลิตร

นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชั่น CNG ที่ปรับแต่งให้เครื่องยนต์รองรับเชื้อเพลิงทางเลือกโดยเฉพาะ และจะมีแรงม้าสูงสุดเหลือ 57 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุดเหลือ 82 นิวตัน-เมตร พร้อมอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 34.46 กิโลเมตร/กิโลกรัม CNG

Maruti Suzuki Tour H1 มีราคาจำหน่ายในเวอร์ชันเชื้อเพลิงน้ำมันเบนซินที่ 480,500 รูปี หรือประมาณ 206,595 บาท และในรุ่นเชื้อเพลิง CNG ที่ 570,500 รูปี หรือประมาณ 245,291 บาท

ที่มา: Carscoops