หลังจากวันที่ 14 มิถุนายน 2023 ที่ Land Rover เปิดตัว Discovery Sport รุ่นปรับอุปกรณ์ให้ทันสมัยด้วยหน้าจอกลางโค้งรุ่นใหม่ขนาด 11.4 นิ้ว พร้อมคอนโซลกลางใหม่ที่ปรับให้การใช้งานง่ายยิ่งขึ้น พร้อมกับการติดตั้งช่องเก็บของตามการใช้งานได้อย่างสะดวก ก็ถึงคราวของรุ่นน้องอย่าง Range Rover Evoque ที่ปรับโฉมทั้งภายนอกและภายในเพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดหลังจากเปิดตัวตั้งแต่ปี 2018

 

รายละเอียดภายนอกที่มีการเปลี่ยนแปลงแต่ละจุดอย่างเล็กน้อยอาจทำให้แทบจะไม่เห็นความแตกต่างเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ด้านหน้ามาพร้อมกับกระจังหน้าที่มีรายละเอียดภายในแตกต่างกัน ด้วยการหันมาใช้ลายตะแกรงและรูปทรงสี่เหลี่ยมแทนหกเหลี่ยมแบบรุ่นปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีการปรับรายละเอียดภายในโคมไฟหน้าใหม่ โดยติดตั้งระบบ Pixel LED ที่เป็นออฟชั่นให้เลือกติดตั้ง เพิ่มความหรูหราเป็นประกายดุจเพชร ซึ่งจะประกอบไปด้วยชุด Pixel module จำนวน 4 ชุด โดยแต่ละชุดจะประกอบไปด้วยหลอด LED จำนวนมากเป็น 3 เท่าเมื่อเทียบกับไฟหน้าแบบ Adaptive LED รุ่นเก่า และยังมาพร้อมไฟ DRL ออกแบบใหม่

ด้านข้างมาพร้อมกับล้ออัลลอยลายใหม่ที่มีให้เลือกทั้งหมด 8 ลาย และมีขนาดใหญ่สุดถึง 21 นิ้ว ขณะที่ด้านท้ายมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดภายในโคมไฟท้ายเล็กน้อย นอกเหนือไปจากสีตัวถังที่เพิ่มเติมสีใหม่จำนวน 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Tribeca Blue สีบรอนซ์ Corinthian Bronze และสีเทา Arroios Grey

 

ภายในมาพร้อมกับคอนโซลกลางออกแบบใหม่ เพื่อให้เข้าชุดกับจอกลางขนาด 11.4 นิ้ว แบบโค้ง โดยเป็นการยุบรวมจอควบคุมระบบปรับอากาศเข้าไว้เป็นชิ้นเดียวกับจอระบบ Infotainment เช่นเดียวกับรุ่นพี่ Discovery Sport นอกจากนี้ยังได้ทำการเปลี่ยนหัวเกียร์ใหม่ให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพิ่มเติมช่องเก็บของตามจุดต่างๆ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างสะดวกกว่าเดิม ทั้งหมดนี้เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางการออกแบบใหม่ล่าสุดที่เน้นความมินิมอล รวมไปถึงการใช้วัสดุที่รักโลกมากยิ่งขึ้น ด้วยเบาะหุ้มผ้าลายใหม่ให้เลือกแทนหนัง

 

ระบบ Infotainment Pivi Pro 2 เวอร์ชั่นล่าสุด ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Apple CarPlay Android Auto และ Amazon Alexa 10 แบบไร้สายเป็นไปอย่างสะดวกยิ่งขึ้น พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ ที่ทำงานร่วมกับกล้อง 3D และกล้องรอบคัน ซึ่งทาง Land Rover เคลมว่ามีคุณภาพในระดับหัวแถวของกลุ่ม พร้อมฟีเจอร์กล้องส่องพื้นผิวถนนอย่างละเอียด ClearSight รวมไปถึงกล้องภายในห้องโดยสาร เพื่อความปลอดภัยสูงสุด เพิ่มเติมอากาศภายในที่สะอาดยิ่งขึ้นจากระบบกรองอากาศ Cabin Air Purification Plus เป็นครั้งแรกของ Evoque

 

ทางด้านขุมพลังยังคงใช้ชุดเดิมไม่ว่าจะเป็นรุ่น 1.5 Plug-in Hybrid P300e จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ แถวเรียง ขนาด 1.5 ลิตร 1,497 ซีซี. ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 309 แรงม้า (PS) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive เสียบปลั๊กชาร์จไฟ Plug-in Hybrid ใช้แบตเตอรี่ขนาด 14.9 kWh ที่ให้ระยะทางวิ่งสูงสุดกว่า 62 กิโลเมตร

และขุมพลังรุ่น 2.0 Mild-hybrid จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 249 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 365 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 48V mild-hybrid (Synchronous Reluctance Motor) เพื่อช่วยในการออกตัว แบตเตอรี่ 46.2 V Lithium-ion

2024 Range Rover Evoque จะเริ่มส่งมอบในตลาดยุโรปภายในปี 2023 นี้ โดยมีราคาจำหน่ายในสหราชอาณาจักร เริ่มต้นที่ 40,080 ปอนด์ หรือ 1.77 ล้านบาท ไม่รวมภาษีนำเข้าประเทศไทย

ที่มา: Motor1