Volkswagen กำลังพิจารณาการปรับไลน์อัพผลิตภัณฑ์เพื่อให้คงไว้ซึ่งโมเดลที่สร้างผลกำไร และสร้างรายได้ที่จะนำไปลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ต่อไป เนื่องด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน โดยเฉพาะแผนที่จะสร้างผลตอบแทนจากยอดขายในอัตราส่วน 6.5% และแบ่งมาใช้ลงทุนกับการพัฒนาดังกล่าวภายในปี 2026
การเปลี่ยนแปลงแรกที่ Volkswagen จะเริ่มดำเนินการ ได้แก่ การปรับลดโมเดลที่จะวางจำหน่ายและไม่สามารถสร้างรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ยกตัวอย่างเช่น Arteon ที่เป็นรถ 5 ประตู Fastback และ Estate ทรงสปอร์ต หรือ Shooting brake ซึ่งมีขนาดตัวถังใกล้เคียง Passat และได้ข้ามน้ำทะเลไปยังทวีปอเมริกาเหนือเช่นเดียวกัน
แผนธุรกิจนี้นับว่าเป็นเป้าหมายอันดับแรกของทีมผู้บริหารของ Volkswagen group ในตอนนี้ ด้วยความตำเป็นที่จะต้องเตรียมรับมือความเปลี่ยนแปลงจากหลายๆปัจจัย โดยการตั้งธง 6.5% ในครั้งนี้ หมายถึงการช่วยให้องค์กรทั้งมวลยังคงอยู่ได้ ตั้งแต่ระดับพนักงานไปจนถึงบอร์ดบริหาร โดยที่สถานะทางการเงินของบริษัทจะต้องไม่สั่นคลอน ภายใต้การปรับตัวต่อเทคโนโลยีที่ปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการลงทุนกับการวิจัยและพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ๆ รวมไปถึงเทคโนโลยีในการผลิต ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพของพนักงานในองค์กร
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีแผนการรัดเข็มขัดรายจ่ายในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าออกแบบและพัฒนา ค่าวัตถุดิบและชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อให้ต้นทุนการผลิตรถยนต์เป็นไปอย่างสมเหตุสมผลมากที่สุด เพื่อให้สามารถจ่ายค่าตอบแทนให้กับพนักงานได้ตามปกติ ไม่มีการปรับลดเงินเดือนหรือจ้างออกแต่อย่างใด ท่ามกลางสภาวะที่ไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีในปัจจุบัน
ผลกระทบที่ตามมาจะสะท้อนไปยังผู้บริโภคในด้านตัวเลือกของรถยนต์ที่สามารถหาซื้อได้น้อยรุ่นลงกว่าเดิม และใช้รุ่นอื่นทดแทน ในส่วนของ Arteon ที่ Volkswagen จะใช้รุ่น ID.7 ขุมพลังไฟฟ้าล้วนทำตลาดแทน และจะเน้นทำตลาดรุ่นที่ใช้เทคโนโลยีร่วมกันให้ได้มากที่สุด พร้อมชูงานวิศวกรรมพื้นฐานที่มีเพียง MQB Platform สำหรับขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปภายใน และ MEB Platform สำหรับขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ 100%
โดยกระบวนการรัดเข็มขัดและปรับลดรุ่นและรุ่นย่อยของแต่ละโมเดลจะเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายน 2023 เป็นต้นไป
ที่มา: Carscoops