Ford อเมริกาเหนือ เปิดตัว Bronco Raptor ตั้งแต่เดือนมกราคม 2022 แต่กว่าจะสามารถส่งมอบได้ ก็ล่วงเลยไปจนถึงปลายปี 2022 เนื่องด้วยการขาดแคลนชิปประมวลผล รวมไปถึงความสนใจที่เข้ามาอย่างล้นหลาม แต่แล้วเวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงปี 2023 ซึ่งทางสื่อท้องถิ่นได้จับภาพรถทดสอบที่ไร้การพรางใดๆ โดยเมื่อพิจารณาองค์ประกอบทั้งหมดแล้ว บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเป็น Ford Bronco Raptor

อย่างไรก็ตาม มีการปรับเปลี่ยนสีตัวถังภายนอก โดยเปลี่ยนจากซุ้มล้อรอบคันสีวัสดุเป็นสีเดียวกับตัวรถ ซึ่งในครั้งนี้มาพร้อมกับสีตัวถังใหม่ สีเขียว Shelter Green โดดเด่นด้วยการตกแต่งโทนสีส้มตามตัวถังและขอบล้ออัลลอย รวมไปถึงขอเกี่ยวลากและกระจกหน้าต่างบานหลัง สำหรับรถทดสอบที่ถ่ายได้ในครั้งนี้ อาจเป็นรุ่นตกแต่งพิเศษนอกเหนือจากรุ่นปกติ จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่า 2024 Ford Bronco Raptor จะมาพร้อมกับการตกแต่งเช่นนี้เลยหรือไม่ หรืออาจจะยังใช้ซุ้มล้อสีวัสดุเหมือนรุ่นปัจจุบัน

 

แน่นอนว่าความสามารถในการลุยยังคงไว้ซึ่งสารพัดอุปกรณ์ต่างๆ แน่นท่วมคัน ไม่ว่าจะเป็น ล้อขนาด 17 นิ้ว ที่มีให้เลือก 2 ดีไซน์ รัดด้วยยาง all-terrain BFGoodrich KO2 ขนาด 37 นิ้ว หรือ 37×12.50R17LT ที่ทาง Ford เคลมว่าเป็นขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดา SUV ตัวลุยที่ขายในทวีปอเมริกา นอกจากนี้ยังได้แร็คพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า ที่พัฒนาต่อยอดจาก F-150 Raptor

ระบบช๊อคอัพ RAPTOR High-Performance Off-Road Stability Suspension (HOSS) 4.0 ซึ่งพัฒนาร่วมกับ FOX โดยมาพร้อมกับระบบวาล์วช๊อคอัพปรับได้ FOX 3.1 live valve ที่ทำงานร่วมกับเซนเซอร์ทั้ง 4 ล้อ ในการตรวจวัดสภาพพื้นผิวทาง ทำให้สามารถปรับจูนระบบช่วงล่างได้อย่างแม่นยำ

เครื่องยนต์ EcoBoost เบนซิน V6 DOHC 24 วาล์ว ขนาด 3.0 ลิตร 3,000 ซีซี จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ตรงสู่ห้องเผาไหม้ แบบ Direct Injection พร้อมระบบอัดอากาศ แบบ Twin-Turbocharger พ่วง Intercooler ให้กำลังสูงสุด 405 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 596 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ SelectShift 10 จังหวะ และใช้เพลาส่งกำลังที่ได้รับการอัพเกรดของ Dana ที่ใช้ในรถแข่ง Bronco DR

 

เป็นการนำเสียงตอบกลับจากมิตรรักแฟนเพลงที่ได้ส่งผ่านไปยังสื่อโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ ทำให้ Ford ปรับปรุงรายละเอียดภายนอก เพื่อให้ดูลงตัวและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยกำหนดการเปิดตัวของ 2024 Ford Bronco Raptor จะเกิดขึ้นภายในปี 2023 นี้

ที่มา: Automedia