Pagani ค่ายรถสปอร์ตสัญชาติอิตาลีได้ออกมายืนยันว่า จะไม่มีแผนการนำขุมพลังไฟฟ้าล้วนมาติดตั้งลงในรถ Supercar ภายในปี 2035 นี้ ถึงแม้ว่าจะดำเนินการวิจัยและพัฒนามาตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาก็ตาม แต่แล้วผลการศึกษาก็พบว่า น้ำหนักของแบตเตอรี่เป็นอุปสรรคสำคัญของรถสปอร์ต ซึ่งทำให้ตัวรถสูญเสียประสิทธิภาพอย่างที่ควรจะเป็น

โดยรายงานนี้ได้รับการยืนยันจาก Christopher Pagani ลูกชายของประธานบริษัท ซึ่งได้ให้ข้อมูลกับสื่อยานยนต์สัญชาติอังกฤษ Top Gear ว่า “เป้าหมายสำคัญนับตั้งแต่บริษัทสร้างรถสปอร์ตก็คือ การลดน้ำหนักตัวถังให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่มีวันลืม และนับเป็นโจทย์สำคัญข้อแรกของการสร้างรถจากแบรนด์ Pagani”

 

กล่าวคือ ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันของขุมพลังไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ยังคงมีข้อจำกัดในเรื่องของน้ำหนัก ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยหากรถยนต์ซูเปอร์คาร์ที่ต้องการมีการกระจายน้ำหนักที่ยอดเยี่ยม จะสามารถเอาชนะข้อจำกัดนี้ลงได้ อย่างไรก็ตาม การวิจัยและพัฒนาขุมพลังไฟฟ้าและแบตเตอรี่ทางค่ายต่อเนื่อง ก็ไม่ได้สูญเปล่าแต่อย่างใด หากแต่จะทำให้ทีมพัฒนาตระหนัก และรับรู้ถึงการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีที่เหมาะสมในอนาคตข้างหน้า เพียงแต่ว่าไม่ใช่ในช่วงเวลาอนาคตอันใกล้นี้

 

ผลสรุปของการศึกษา ทำให้ Pagani ยังยืนยัน ที่จะใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจาก AMG ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซิน V12 ทำมุม 60 องศา วางกลางลำ DOHC 48 วาล์ว 6.0 ลิตร 5,980 ซีซี จาก Mercedes-พร้อมระบบอัดอากาศ แบบ Twin-Turbocharger กำลังสูงสุด 864 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 1,100 นิวตัน-เมตร ที่ 2,800-5,900 รอบ/นาที ติดตั้งลงในรถสปอร์ตของทางค่าย แล้ววางจำหน่ายในภูมิภาคยุโรป ตลอดจนถึงปี 2035 สำหรับการเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์บล๊อคอื่นนั้น ทาง Pagani ยังอยู่ในขั้นตอนวิเคราะห์มาตรฐานเครื่องยนต์สันดาปภายในในช่วงเวลาหลังจากนี้

ด้วยเหตุนี้ทำให้ Pagani ออกมายอมรับว่า ได้มีการประชุมหารือกับทาง Mercedes-Benz และ AMG ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เพื่อประเมินสถานการณ์ ในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ก็สามารถนำเทคโนโลยีของพาร์ทเนอร์มาปรับใช้อีกครั้ง

ที่มา: Carscoops