สำนักข่าวท้องถิ่นประเทศจีน Chinese Daily Economic ได้รายงานความคืบหน้าค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ เบอร์ต้นของประเทศหรือ BYD กำลังเจรจาหารือการตั้งโรงงานในประเทศฝรั่งเศสกับรัฐบาลฝรั่งเศส รวมไปถึงขยายพื้นที่ไปยังประเทศเยอรมันและสเปน หลังจากถอยออกมาจากสหราชอาณาจักร เนื่องจากข้อจำกัดทางการค้าหรือ Brexit
ทั้งหมดนี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเริ่มผลิตรถ EV คันแรกตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป โดยได้รับการยืนยันจากทางการประเทศฝรั่งเศส ว่า BYD ได้เข้ามาเจรจาแผนยุทธศาสตร์ในการตั้งโรงงานในภูมิภาคยุโรปอย่างจริงจัง อีกทั้งยังได้รับการยืนยันจากทาง BYD เอง ว่าจะไม่เป็นการเข้าไปซื้อโรงงานเก่าที่ตั้งอยู่แต่เดิมแล้ว แต่จะเป็นการตั้งโรงงานแห่งใหม่
![](https://www.headlightmag.com/hlmwp/wp-content/uploads/2023/05/BYD_to_establish_factiry_europe_01.jpg)
อย่างไรก็ตาม BYD เอง เคยมีโรงงานผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์และเพิ่มจะหยุดการผลิตไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 โดยรถโดยสารที่ใช้ขุมพลังไฟฟ้าล้วนได้รับความนิยมน้อยลงจนไม่สามารถเดินสายพานการผลิตต่อไปได้อีก แต่ก็ยังประกาศไว้อย่างชัดเจนว่าจะไม่ทิ้งการดำเนินธุรกิจในฝรั่งเศสอย่างแน่นอน
ขณะที่เดือนธันวาคม 2022 ที่ผ่านมา ก็มีการประกาศออกมาให้สอดรับกับคำกล่าวข้างต้น โดย Stella Li หัวเรือใหญ่ของ BYD ได้ยืนยันที่จะบุกตลาดยุโรปด้วยรถ EV ในรูปแบบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นประเทศ เยอรมัน นอร์เวย์ สวีเดน เนเธอร์แลนดส์ ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร และกำลังแสวงหาทำเลให้มั่นเหมาะกับการบุกตลาดรถ EV ที่กำลังเติบโตไม่แพ้จีนและอเมริกาเหนือ
![](https://www.headlightmag.com/hlmwp/wp-content/uploads/2023/05/BYD_to_establish_factiry_europe_02.jpg)
![](https://www.headlightmag.com/hlmwp/wp-content/uploads/2023/05/BYD_to_establish_factiry_europe_03.jpg)
จนกระทั่งเข้าสู่ปี 2023 BYD ได้นำเข้ากองทัพรถ EV ขากโรงงานในประเทศจีน เพื่อมาขายยังตลาดยุโรป ซึ่งประกอบไปด้วยหัวหอก 3 รุ่น ได้แก่ Han EV Tang EV และน้องใหม่ที่กำลังมาแรงในบ้านเราอย่าง ATTO 3 ก็เพิ่งจะวางจำหน่ายไปสดๆร้อนๆ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ BYD ได้วางศิลาฤกษ์ตั้งโรงงานแห่งใหม่ในประเทศไทย ซึ่งจะเริ่มสายพานการผลิตได้ในปี 2024 นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดโรงงานในประเทศเวียตนาม พร้อมกับกำลังเจรจากับประเทศอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ เพื่อกระจายความเสี่ยงหากเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดในอนาคต
ขณะที่อีกซีกโลกหนึ่งอย่างทวีปอเมริกาใต้ BYD เองก็เล็งเห็นโอกาสในการเข้าซื้อโรงงานเก่าของ Ford ที่ประเทศบราซิล ซึ่งจะเป็นฐานการผลิตรถ EV แห่งแรกในทวีปอเมริกา นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาฐานการผลิตรถยนต์ขุมพลังไฟฟ้าล้วนในเชิงพาณิชย์ในอเมริกาเหนือ แต่ทว่า BYD ยังไม่มีแผนในการขยายตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขุมพลังไฟฟ้าล้วนแต่อย่างใด
ที่มา Carnewschina