ค่ายจีนยักษ์ใหญ่ต่างเร่งขยายโรงงานไปยังทวีปต่างๆ เพื่อให้ได้สิทธิพิเศษทางภาษีหรือเป็นการขยายฐานการผลิตเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต นับตั้งแต่ความนิยมรถ EV เพิ่มขึ้น ทำให้ Great Wall Motors มองเห็นศักยภาพที่ตัวเองสามารถท้าทายการทำตลาดที่แตกต่างออกไป รวมไปถึงการขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ อยู่เสมอ

โดยล่าสุด หลังจากได้ซื้อโรงงาน Iracemápolis ของ Daimler เมื่อ 18 สิงหาคม 2021 ทาง GWM จึงได้ ลงทุนเป็นเม็ดเงินกว่า 1 หมื่นล้านเรียล หรือคิดเป็นเงิน 67,331 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดลาตินอเมริกา โดยมีประเทศบราซิลเป็นฐานทัพ เพื่อตอบสนองความต้องการรถยนต์พลังงานใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้ และนับเป็นโรงงานที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 จากที่อยู่ทั้งหมด
ตลาดรถกระบะขนาดเล็กในบราซิลที่มีความต้องการเฉพาะเป็นเป้าหมายแรกที่ทาง GWM ต้องการจะเจาะตลาดใหม่แห่งนี้ โดยจะเป็นขุมพลังรูปแบบเชื้อเพลิงผสมผสานและมอเตอร์ไฟฟ้าในรูปแบบ Hybrid ด้วยสาเหตุที่ว่า ประเทศบราซิลมีอัตราการใช้เชื้อเพลิงทางเลือกหรือเอทานอลเป็นสัดส่วนสูงกว่า 80% เมื่อเทียบกับทั่วโลกที่มีใช้เพียง 30% เนื่องจากผลผลิตภายในประเทศ รถยนต์ Hybrid ที่สามารถใช้เชื้อเพลิงเอทานอลได้จึงเป็นทางออกสำคัญ รวมไปถึงการทำให้เป็นระบบ Plug-in hybrid เพื่อขยายขีดจำกัดในการใช้งานพลังงานไฟฟ้าได้ระยะทางไกลมากยิ่งขึ้น



ยิ่งไปกว่านั้นทางการยังมองว่า การนำเอทานอลมาใช้ในการแยกก๊าซไฮโดรเจนออกมาใช้เป็นพลังงานสะอาดอีกรูปแบบหนึ่ง ยังเป็นขั้นต่อไปของการพัฒนาพลังงานสะอาดของบราซิล โดยการพัฒนาเทคโนโลยีแห่งอนาคตนี้ จะเป็นความร่วมมือระหว่างจีนและบราซิล เพื่อนำเสนอทางเลือกใหม่ของพลังงานสะอาดในอนาคตอันใกล้
ที่มา: Carnewschina