Toyota นำ Supra เกรด RZ ในตลาดญี่ปุ่นมาแต่งเติมความร้อนแรงด้วยสีตัวถังสีส้ม Plasma Orange พร้อมตกแต่งให้มีความใกล้เคียงรถแข่งรายการ GT4 ซึ่งเริ่มลงสนามตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 ก่อนจะปล่อยรุ่น EVO ที่ปรับปรุงสมรรถนะให้แรงเร้าใจยิ่งขึ้น จนได้ส่งมอบรถแข่งจนถึงจำนวน 100 คัน และเป็นที่มาของการเปิดตัวรถเวอร์ชั่นพิเศษสำหรับชาวอาทิตย์อุทัยรุ่นนี้
ภายนอกยังคงไว้ซึ่งชุดแต่งแบบเดียวกับรุ่น RZ เวอร์ชั่นถนน ยังคงไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปใช้ชุดแต่งสุดโหดจากรุ่น GT4 แต่อย่างใด แม้แต่ล้ออัลลอยยังคงเป็นลายเดิมแต่มากับสีดำด้านเพื่อให้ตัดกับสีตัวถังสีส้ม และคาลิปเปอร์เบรกสีดำเงาแปะด้วยตรา GR เสริมให้ดูดุดันยิ่งขึ้น พร้อมกับชุดแต่งรอบคันสีดำเงาอีกด้วย
ภายในมาพร้อมกับเบาะนั่งแบบ Bucket seat หุ้มด้วยหนังแท้สีดำและมีส่วนที่สัมผัสบริเวณลำตัวหุ้มด้วย Alcantara สีดำ พร้อมเสริมความลิมิเตทด้วยการตกแต่งคอนโซลหน้าฝั่งผู้โดยสารด้วยเพลท “Supra 100 Edition” สีแดงพร้อมสลักลายรถแข่ง GT4
ขุมพลังยังคงใช้เครื่องยนต์รหัส B58B30C เบนซิน 6 สูบแถวเรียง DOHC 24 วาล์ว ขนาด 3.0 ลิตร 2,998 ซีซี กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 82.0 x 94.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.0 : 1 พ่วงระบบอัดอากาศ Twin-scoll Turbocharge กำลังสูงสุด 387 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 – 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ เท่านั้น ส่งกำลังสู่ล้อคู่หลัง
อย่างไรก็ตาม Toyota ยังมีแผนที่จะเปิดตัวรุ่นร้อนแรงของ Supra ในรุ่น GRMN ที่อาจนำขุมพลังที่แรงกว่าจาก BMW M ในรหัส S58 ที่มาพร้อมพละกำลังมากกว่า 543 แรงม้า แต่ก็ยังไม่ทราบรายละเอียดในขณะนี้ ในขณะที่ภูมิภาคยุโรปได้มีโอกาสสัมผัส Supra เวอร์ชั่นดิบเถื่อนที่มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ พร้อมการไล่เบา ด้วยการถอดอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น เบาะไฟฟ้า และเปลี่ยนวัสดุหุ้มภายในเหลือเพียงผ้า
ผู้ที่อยากเป็นเจ้าของ Supra RZ Plasma Orange Edition จะต้องผ่านการรับสลากเพื่อค้นหาผู้โชคดีชาวญี่ปุ่นจำนวน 100 ท่าน ด้วยราคาจำหน่ายสุดพิเศษเช่นกันที่ 7,600,000 เยน โดยจะทำการเปิดตัวสู่สาธารณชนที่สนามแข่ง Fuji Speedway รายการ Super GT race ในวันที่ 3-4 พฤษภาคม 2023 นี้
ที่มา: Motor1