หลังจากเปิดตัวไปเมื่อกลางปี 2022 ในตลาดโลกจนกระทั่งเปิดราคาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการด้วยรุ่น HSE Long Wheelbase เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียง ราคาจำหน่าย 8,999,000 บาท ก็ยังไร้เงาเครื่องยนต์เบนซิน V8 อันเลื่องชื่อของค่าย จนกระทั่งล่าสุดทาง Land Rover ได้เปิดตัวรุ่นพิเศษตกแต่งแนวลุย Outbound Edition ควบคู่กับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน V8 และแพ็คเกจตกแต่ง County Exterior Pack สำหรับรุ่น 110
โดยรุ่น Outbound Edition จะมาพร้อมเบาะนั่งจำนวน 5 ที่นั่ง ที่มีห้องเก็บสัมภาระใหญ่จุใจกว่า 1,329 ลิตร และขยายเพิ่มเป็น 2,516 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวที่ 2 ลง โดยติดตั้งพื้นยางปูห้องสัมภาระเพื่อให้สามารถดูแลรักษาได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมแผ่นยางรองเสริมพิเศษเพื่อรองรับการบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่น้ำหนักมาก
ภายนอกมาพร้อมสีเทาด้าน Shadow Atlas ตกแต่งบริเวณกันชนหน้า กระจังหน้า พร้อมช่องดักลมสีดำ Anthracite ติดตั้งล้ออัลลอยสีดำเงาขนาด 20 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และสามารถอัพเกรดเป็นขนาด 22 นิ้ว สีเทาด้าน พร้อมทางเลือกสีตัวถัง สีขาว Fuji White สีดำ Santorini Black สีเทา Carpathian Grey และสีเทา Eiger Grey พร้อมออฟชั่นสติ๊กเกอร์ตกแต่งเพิ่มความดุดัน
วัสดุหุ้มเบาะสามารถเลือกได้ระหว่างเบาะหนังแท้ Windsor หรือ วัสดุผ้าแบบทนทานต่อการขีดข่วน ใช้สีดำ Ebony ทั้งเบาะนั่งและผ้าหลังคา ตกแต่งคอนโซลและชิ้นส่วนภายในด้วยสีดำ Satin Black พร้อมกับการติดตั้งอุปกรณ์ล๊อคสัมภาระต่างๆ ตะขอเกี่ยว ตาข่ายรัดสัมภาระ
ขุมพลังของ Land Rover Defender 130 V8 เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ V8 ขนาด 5.0 ลิตร Supercharger กำลังสูงสุด 525 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 610 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ในตัวถัง 90 สามประตู ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 5.7 วินาที
สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ V8 ของ 130 จะติดตั้งไฟหน้าแบบ Matrix LED หลังคาตัดสีดำ ไฟท้ายรมดำ ล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้วสีเทาด้าน Satin Dark Grey ขณะที่ภายในมาพร้อมเบาะคนขับปรับได้ 14 ทิศทาง พร้อมระบบเป่าลมและอุ่นเบาะ เครื่องเสียงพรีเมียมจาก Meridian และระบบปรับอากาศแบบ 4 โซน
นอกจากนี้ยังมีแพ็คเกจ County Exterior Pack สำหรับ 110 รุ่น 2 แถวตัวถังสั้นอีกด้วย เน้นความคลาสสิค พร้อมสติ๊กเกอร์ตกแต่งตัวถังรูปแบบใหม่ สคัฟเพลทเรืองแสงได้ ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว สีขาว สีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว Fuji White สีดำ Santorini Black ที่จะมาพร้อมกับหลังคาและฝากระโปรงท้ายสีน้ำเงิน Tasman Blue หรือจะเป็นสีตัวถังน้ำเงิน Tasman Blue ตัดด้วยสีหลังคาและฝากระโปรงท้ายสีขาว
ที่มา: Carscoops