Mclaren เปิดตัวรถสปอร์ตที่มาแทนที่ 720S ซึ่งเป็นรุ่นท๊อปสุดในไลน์อัพ หลังจากเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2017 ด้วยพละกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน V8 แรงม้าสูงสุด 720 แรงม้า (PS) พร้อมรุ่นพิเศษ 765LT อัพเกรดพละกำลังเป็น 765 แรงม้า ก่อนที่ทาง Mclaren จะประกาศยุติบทบาท 720S ลง เพื่อหลีกทางให้กับน้องใหม่ 750S ที่เพิ่งจะเปิดตัวในวันที่ 26 เมษายน 2023 นี้ โดยมีให้เลือกทั้งตัวถังหลังคาแข็ง Coupe และเปิดประทุน Spider ซึ่งทางค่ายเคลมว่ามีการเปลี่ยนชิ้นส่วนทั้งคันไปมากกว่า 30%

งานออกแบบภายนอกใช้แนวคิด “form follows function” โดยยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของรุ่นพี่ 720S เริ่มต้นด้วยกันชนหน้าใหม่ ที่เพิ่มช่องดักลมขนาดใหญ่ แต่ยังคงไว้ซึ่งรูปทรงเช่นเดิม ตั้งแต่ไฟหน้า LED กันชนหน้า โดดเด่นด้วยสปอยเลอร์กันชนหน้าขนาดใหญ่ ที่ช่วยเรื่องอากาศพลศาสตร์ พร้อมชุดแต่งรอบคันที่ออกแบบใหม่ทำงานร่วมกับสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ขึ้นกว่า 20% ที่สามารถปรับทิศทางลมได้ตามความเหมาะสม

ด้านหลังยังได้รับแรงบันดาลใจมาจาก P1 รถสปอร์ตในตำนาน ด้วยท่อไอเสียออกกลางลำ พร้อมออกแบบตำแหน่งติดตั้งสปอยเลอร์ใหม่ ให้สูงขึ้นกว่าเดิม 2 นิ้ว พร้อมติดตั้งช่องระบายลมขนาดใหญ่ที่บริเวณซุ้มล้อหลัง กันชนหลังออกแบบใหม่ที่มาพร้อมกับตะแกรงซี่รูใหญ่ พร้อมแผ่นดิฟฟิวเซอร์ลายใหม่

ขนาดและมิติตัวถัง

• ความยาว : 4,569 มิลลิเมตร
• ความกว้าง : 1,930 มิลลิเมตร
• ความสูง : 1,196 มิลลิเมตร
• ฐานล้อ : 2,670 มิลลิเมตร
• ความจุถังน้ำมัน : 72 ลิตร

ภายในมาพร้อมกับเบาะนั่งและคอนโซลหุ้มด้วย Alcantara เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมทางเลือกวัสดุ TechLux ที่ใช้วัสดุหนัง Nappa และ Performance ที่ผสมผสานระหว่างหนังแท้กับ Alcantara ให้เลือก พร้อมตกแต่งด้วยไฟ Ambient lighting พร้อมวัสดุสีเงิน ขณะที่แผงคอนโซลหน้าได้รับการออกแบบใหม่ เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ใช้งานอย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะระบบ McLaren Control Launcher ที่เป็นฟังก์ชั่นการจดจำการปรับแต่งการทำงานของตัวรถ ตั้งแต่ระบบ Aerodynamics การปรับตัวช่วยการขับขี่ การปรับพละกำลังของเครื่องยนต์และการตอบสนองขอบระบบส่งกำลัง ผ่านปุ่ม Shortcut

ภายในยังสามารถอัพเกรดเบาะนั่งเป็นแบบ Full bucket seat ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา และระบบเครื่องเสียงจาก Bowers & Wilkins

เครื่องยนต์เบนซิน รหัส M840T V8 90 องศา ขนาด 4.0 ลิตร 3,994 ซีซี. เทอร์โบแบบ Twin-scroll พร้อมเวสต์เกตไฟฟ้า 2 ลูก 32 วาล์ว ขนาดปากกระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก เท่ากับ 93.0 x 73.5 มิลลิเมตร ให้พลังสูงสุด 750 แรงม้า (PS) ที่ 7,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 800 นิวตัน-เมตรที่ 5,500 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังของ 720S เป็นแบบคลัตช์คู่ SSG (Seamless Shift Gearbox) 7 จังหวะ

ตัวเลขสมรรถนะ 750S รุ่น Coupe ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายใน 2.8 วินาที และเร่งจาก 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 7.2 วินาที วิ่งควอเตอร์ไมล์ได้ภายใน 10.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 332 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถเบรกหยุดจากความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลา 4.6 วินาทีกับระยะเบรก 113 เมตร
ตัวเลขสมรรถนะ 750S รุ่น Spider ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายใน 2.8 วินาที และเร่งจาก 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 7.3 วินาที วิ่งควอเตอร์ไมล์ได้ภายใน 10.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 332 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถเบรกหยุดจากความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลา 4.6 วินาทีกับระยะเบรก 113 เมตร

นอกจากนี้ยังได้ทำการขยายความกว้างแทร็คล้อคู่หน้าอีก 6 มิลลิเมตร ด้วยการปรับมุมองศาต่างๆ ของจุดยึดช่วงล่างบางจุด ที่มาพร้อมกับระบบควบคุม Proactive Chassis Control III ที่เพิ่มความแข็งของสปริงคู่หน้าขึ้น 3% และ 4% ที่คู่หลัง พร้อมระบบช่วยยกด้านหน้าให้สามารถขับผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้รวดเร็วกว่า 720S จาก 10 เหลือเพียง 4 วินาที

Mclaren 750S เตรียมวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาด้วยราคาเริ่มต้นที่ 324,000 เหรียญสหรัฐ (11,094,570 บาท) สำหรับรุ่น 345,000 เหรียญสหรัฐ (11,813,662 บาท) สำหรับรุ่น Spider ไม่รวมภาษีนำเข้า

ที่มา: Motor1