Changan (ฉางอัน) เป็นผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ 1 ใน 4 จาก จีนแผ่นดินใหญ่อีกรายที่ทนความยั่วเย้ายวนใจในกลิ่นอายของบรรยากาศตลาดรถยนต์เมืองไทยไม่ไหว ถึงขั้นส่งรถยนต์ต้นแบบรุ่นใหม่ๆ มาถึง 5 คัน เข้ามาศึกษาวิจัยตลาดในไทย ก่อนที่จะเริ่มให้ทีมประชาสัมพันธ์จาก “Mirum Agency” เริ่มติดต่อประสานงานกับสื่อมวลชน เพื่อแสดงความพร้อมในการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจัง ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2022
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา Changan ได้เข้ามาเจรจาและหารือร่วมกับทั้งหน่วยงานภาครัฐและนิคมอุตสาหกรรมย่านปราจีนบุรี รวมทั้งซุ่มเดินสายทาบทามบรรดานักธุรกิจ Dealer จำหน่ายรถยนต์ในไทยหลายราย เข้าร่วมฟังแผนธุรกิจและประกาศรับสมัครพนักงานในประเทศไทยอย่างไม่เป็นทางการไปบ้างแล้ว แต่เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของ Covid-19 ส่งผลทำให้แผนงานต่าง ๆ ต้องเลื่อนล่าช้าออกไป
ในช่วงต้นปี 2023 นี้ Changan ได้ทำการเจรจาซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างโรงงาน จดทะเบียนบริษัทในประเทศไทย ตลอดจนเตรียมการในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานภาครัฐ และการเตรียมเลือกรุ่นรถยนต์ที่จะเข้ามาทำตลาด ซึ่งจะมีแต่กลุ่มรถยนต์ประเภท xEV หรือรถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ทั้ง Hybrid (HEV) , Plug-in Hybrid (PHEV) และ Battery Electric Vehicle (BEV) เท่านั้น ไม่มีรถยนต์สันดาปล้วนๆ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2023 ที่ผ่านมา บริษัท Changan Automobile ได้ประกาศลงทุนในประเทศไทยด้วยเม็ดเงินจำนวน 9,800 ล้านบาท เตรียมยื่นขอรับการส่งเสริมจากบีโอไอ เพื่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาแห่งแรกนอกประเทศจีน ส่งออกไปยังตลาดโลก
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยว่า จากการทำงานร่วมกับบริษัท Changan Automobile อย่างต่อเนื่องในช่วงเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งบีโอไอได้เดินทางไปพบผู้บริหารระดับสูงของบริษัทที่ประเทศจีน เมื่อต้นเดือนเมษายน 2023 เพื่อชี้แจงข้อมูลสำคัญประกอบการตัดสินใจในขั้นสุดท้าย รวมทั้งได้ตอกย้ำมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ และความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นฐานการผลิต EV ระดับโลก ส่งผลให้บริษัท Changan Automobile มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทย
บริษัท Changan Automobile ตัดสินใจลงทุนจัดตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการลงทุนครั้งใหญ่เป็นแห่งแรกนอกประเทศจีน ด้วยเงินลงทุน 9,800 ล้านบาท ในการจัดตั้งฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาทั้งประเภท BEV, PHEV, REEV (Range Extended EV) และแบตเตอรี่ กำลังการผลิตในระยะแรก 1 แสนคันต่อปี เพื่อตอบสนองความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งจำหน่ายตลาดในประเทศและส่งออกไปยังกลุ่มอาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ และแอฟริกาใต้
บริษัท Changan Automobile เป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและระบบขับขี่อัจฉริยะ และเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 4 ของจีน ด้วยยอดขายกว่า 2 ล้านคันในปีที่แล้ว มีสำนักงานใหญ่และ ฐานการผลิตหลักอยู่ที่มหานครฉงชิ่ง อีกทั้งได้มีการร่วมลงทุนกับบริษัทฟอร์ด และมาสด้า ผลิตรถยนต์ในจีนด้วย สำหรับแผนการลงทุนในประเทศไทยนั้น บริษัทเริ่มศึกษาข้อมูลการลงทุนในไทยตั้งแต่ปี 2020 และมีการหารือร่วมกับสำนักงานบีโอไอ ณ นครเซี่ยงไฮ้ อย่างใกล้ชิด ในการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลการลงทุนเชิงลึก รวมถึงได้ส่งทีมงานเดินทางมาพบกับผู้บริหารของบีโอไอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายครั้ง เพื่อหารือมาตรการสนับสนุนและรวบรวมข้อมูลประกอบการวางแผนการลงทุน
(AVATR 11 by Changan, CATL & Huawei)
“การตัดสินใจลงทุนในประเทศไทยของฉางอัน เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลก อีกทั้งแสดงถึงความเชื่อมั่นของบริษัทที่มีต่อประเทศไทย ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ศักยภาพของตลาด นโยบายเชิงรุกในการส่งเสริม EV แบบครบวงจร รวมทั้ง ซัพพลายเชนที่พร้อมรองรับการผลิต EV โดยบริษัทได้เริ่มหารือกับซัพพลายเออร์ในไทย เพื่อให้ผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ส่งให้กับบริษัท ซึ่งจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการไทยทั้งรายเล็กและรายใหญ่ด้วย นอกจากนี้ บีโอไอจะเดินหน้าทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ดึงผู้ผลิต EV รายอื่น ๆ ทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ให้เข้ามาลงทุนเพิ่มเติม ควบคู่กับการส่งเสริมระบบชาร์จไฟฟ้าและ ecosystem ที่จำเป็น เพื่อให้ฐานอุตสาหกรรม EV ในประเทศไทยแข็งแกร่งยิ่งขึ้น” นายนฤตม์กล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบีโอไอได้อนุมัติให้การส่งเสริมโครงการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท ทั้งยานยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และไฮบริด (HEV) รวมทั้งหมด 26 โครงการ จาก 17 บริษัท รวมมูลค่าเงินลงทุน 86,800 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 คาดว่าจะมีการขอรับ การส่งเสริมเพิ่มอีกอย่างน้อย 2 โครงการ จากบริษัท ฉางอัน ออโตโมบิล ซึ่งวางแผนจะยื่นขอรับการส่งเสริมภายในเดือนพฤษภาคม และบริษัท GAC Aion ที่ได้มาหารือร่วมกับบีโอไอและกระทรวงอุตสาหกรรม โดยประกาศแผนการลงทุนผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยกว่า 6,400 ล้านบาท เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
(Changan UNIT-T SUV)
อย่างไรก็ตาม กว่าที่พวกเขาจะเริ่มประกาศถึงแผนการทำตลาดรถยนต์ของพวกเขาในเมืองไทย น่าจะต้องรอจนถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2023 และกว่าที่ลูกค้าชาวไทยจะได้สัมผัสรถยนต์รุ่นต่างๆ จาก Changan อาจต้องรอกันจนถึงช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2023 กันเลยทีเดียว
ความเคลื่อนไหวของ Changan น่าสนใจในระดับหนึ่ง แต่ถ้าพูดถึงคุณภาพของตัวรถแล้ว อยู่ในระดับพอกันกับ Great Wall Motor และ Chery Automobile แต่ยังไม่ถึงขั้นทัดเทียมกับ BYD ในภาพรวม คงต้องรอดูกันต่อไป ว่า Changan จะเตรียมรถยนต์รุ่นใดเข้ามาจำหน่ายในบ้านเรา และเตรียมการรองรับด้านบริการหลังการขาย รวมทั้งการบริหารจัดการ Update Software ต่างๆ อย่างไรบ้าง เพราะนั่นคือสิ่งที่ผู้บริโภคชาวไทย ให้ความสำคัญอย่างมากในการซื้อรถยนต์สักคัน
เรียบเรียงโดย Headlightmag.com / J!MMY
ที่มา : BOI