Volkswagen ได้ฤกษ์เปิดตัวรถยนต์ซีดานแบบท้ายลาด Fastback ขุมพลังไฟฟ้ารุ่นแรกของค่ายในนาม ID.7 หลังจากอุบไว้เป็น Teaser อยู่หลายครั้ง โดยรถยนต์รุ่นนี้ยังมีความสำคัญกับตลาดประเทศจีนอย่างมาก เนื่องจากความต้องการของรถ EV ประเภทนี้นั้นมีมากที่สุดอยู่ที่ตลาดแดนมังกร

ดังนั้นโรงงานที่จะได้รับสิทธิ์ในการผลิต ID.7 ในประเทศจีนจะเป็น FAW-Volkwagen ในเมือง Guangdong ขณะที่เวอร์ชั่นตลาดโลกสำหรับจำหน่ายในยุโรปและอเมริกาเหนือ จะถูกผลิตขึ้นที่เมือง Emden ประเทศเยอรมัน

 

โดยเจ้า ID.7 จะใช้งานวิศวกรรมพื้นฐานจาก MEB platform ร่วมกับรถ ID. Series รุ่นอื่นๆ โดยถูกวางตำแหน่งไว้อยู่ท๊อปสุดของ ID. Series และเป็นเพียงรถซีดานขนาดกลางรุ่นเดียวที่ทาง Volkswagen วางจำหน่ายในขณะนี้ เนื่องจากทางค่ายได้ยุติบทบาทของ Passat ไปแล้ว และทำตลาดเพียงแค่ตัวถัง Estate แทน

งานออกแบบภายนอกมีความเรียบง่ายและได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ID. Series รุ่นอื่นๆ โดยเฉพาะด้านหน้าที่มาพร้อมกับกระจังหน้าติดตั้งไฟเรืองแสง DRL ที่ลากเชื่อมต่อกับไฟหน้าแบบ LED ทรงเรียว ทำให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (Cd.) เพียง 0.23

 

ด้านข้างมีเส้นสายที่เรียบง่ายเช่นเดิม โดดเด่นด้วยเส้นบ่าตัวถังที่ลากยาวตั้งแต่ซุ้มล้อคู่หน้าไปจรดยังไฟท้ายที่ออกแบบเป็นเส้นยาวต่อเนื่องตลอดความกว้างตัวถัง เพิ่มเติมความทันสมัยด้วยมือเปิดประตูแบบเรียบเนียนไปกับตัวถัง ตกแต่งชายด้านล่างตัวถังด้วยสีดำเงา พร้อมช่องชาร์จไฟที่บริเวณฝั่งขวาของตัวรถ

ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้ายแบบใสตลอดโคมขนาดใหญ่ ติดตั้งอย่างโดดเด่นกินพื้นที่ของฝากระโปรงท้าย พร้อมติดสัญลักษณ์รุ่น ID.7 ไว้ที่บริเวณกึ่งกลางฝากระโปรงท้าย พร้อมแผ่นดิฟฟิวเซอร์สีดำเงาขนาดใหญ่

 

มิติตัวถัง:

  • ความยาว : 4,961 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง : 1,862 มิลลิเมตร
  • ความสูง : 1,537 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ : 2,966 มิลลิเมตร

 

ภายในที่มีการเผยภาพออกมาอย่างเป็นทางการในช่วงก่อนหน้านี้ ทั้งการติดตั้งระบบความบันเทิงแสดงผลผ่านจอกลางขนาด 15 นิ้ว ติดตั้งตามแนวนอนบริเวณกลางคอนโซลหน้า พร้อมจอ head-up display ระบบ Augmented Reality (AR) ที่จะช่วยให้การแสดงผลข้อมูลต่างๆ สำหรับผู้ขับขี่มีความง่ายดายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการแสดงข้อมูลที่จำเป็นไว้ตัวอักษรใหญ่กว่าข้อมูลย่อย อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ผ่านปุ่มควบคุมบริเวณพวงมาลัยอีกด้วย

 

น่าเสียดายที่การปรับระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติยังต้องควบคุมผ่านปุ่มแบบสัมผัส แต่ทว่า ทาง Volkswagen ได้เคลมประสิทธิภาพการทำงานของระบบปรับอากาศของ ID.7 ว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ผลิตรถยนต์มา ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมทิศทางลมได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนผ่านการประมวลผลอย่างละเอียด เพื่อให้การกระจายลมทั่วทั้งห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถสั่งการด้วยเสียงได้เช่นเดียวกับฟังก์ชั่นการใช้งานอื่นๆ

เพิ่มเติมระบบเบาะคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า 14 ทิศทาง พร้อมระบบนวด 10 จุดเป้นออฟชั่น และยังติดตั้งระบบอุ่นเบาะรวมไปถึงระบบระบายความร้อนเบาะนั่งที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้อัตโนมัติ เพิ่มเติมความโปร่งโล่งด้วยหลังคากระจกบานใหญ่ ที่ปรับความเข้ม-อ่อนได้ตามความเหมาะสมโดยไม่ต้องพึ่งม่านบังแดด

 

ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าที่จะนำมาใช้ในเวอร์ชั่นยุโรปแบ่งออกเป็น 1 รูปแบบ 2 ความจุแบตเตอรี่ ตามแต่ละรุ่นย่อย ได้แก่

  • Pro – มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวให้กำลังสูงสุด 286 แรงม้า (PS) รับกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ความจุ 77 kWh พร้อมระบบชาร์จไฟ DC แบบเร็ว กำลังไฟสูงสุด 170 kW สามารถวิ่งเป็นระยะทางได้สูงสุด 615 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP
  • Pro S – มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวให้กำลังสูงสุด 286 แรงม้า (PS) รับกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ความจุ 86 kWh พร้อมระบบชาร์จไฟ DC แบบเร็ว กำลังไฟสูงสุด 200 kW สามารถวิ่งเป็นระยะทางได้สูงสุด 700 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP

Volkswagen จะพร้อมส่งมอบ ID.7 ได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2023 โดยจะประกาศราคาจำหน่ายในภายหลัง

ที่มา: Motor1