Porsche เตรียมเปิดตัวรถ SUV พี่ใหญ่ของค่าย ที่เป็นตัวผลิกวิกฤติยอดขายเมื่อครั้งเปิดตัวเจเนอเรชั่นแรกเมื่อปี 2003 หลังจากยอดขายรถสปอร์ตลดลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเดินทางมาถึงเจเนอเรชั่นที่ 3 ที่วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งก็ใกล้ถึงช่วงปลายอายุตลาดเต็มทีแล้ว ทางค่ายจึงได้เผยโฉมภาพภายในของ Cayenne รุ่นปี 2024 เป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 เมษายน 2023 นี้

โดยเทคโนโลยีที่อัดแน่นสำหรับภายในได้แก่ จอสุดอลังการจำนวนทั้งหมด 3 ชิ้น เริ่มต้นด้วยจอมาตรวัดผู้ขับขี่ขนาด 12.6 นิ้ว ที่ออกแบบให้เป็นจอทรงโค้ง ที่เปลี่ยนจากจอแบบลูกผสมมาเป็นแบบ Full Digital ที่สามารถปรับได้มากสุดถึง 7 รูปแบบ โดยที่ยังมีโหมดหน้าจอทรงกลม 5 วง ให้เลือก ตามแบบคลาสสิคเช่นเคย

จอกลางขนาด 12.3 นิ้ว ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่ติดตั้งอยู่กลางตัวรถ โดยได้ติดตั้งระบบสั่งงานด้วยเสียงจาก Siri พร้อมระบบนำทางเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลออนไลน์เพื่อนำไปปรับเส้นทางตามสภาพการจราจรจริง นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นวิดีโอสตรีมมิ่งยามจอดอยู่กับที่ได้อีกด้วยอีกด้วย

พร้อมแผงควบคุมแอร์ออกแบบใหม่ที่ใช้ระบบสัมผัสเป็นการสั่งงาน โดยติดตั้งระบบส่งแรงต้านเมื่อกดใช้งานหรือ Haptic Feedback อย่างไรก็ตามยังคงติดตั้งปุ่มควบคุมแบบกดอยู่บางส่วนที่บริเวณแผงด้านล่าง รวมไปถึงปุ่มหมุนควบคุมความดัง-เบาของระบบเครื่องเสียง พร้อมสรรพด้วยจุดชาร์จ USB-C ทั้ง 4 ที่นั่ง รวมไปถึงแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายอีกด้วย

โดยไฮไลท์อยู่ที่การย้ายคันเกียร์ไฟฟ้ามาอยู่ที่ด้านข้างของพวงมาลัยระหว่างจอมาตรวัดผู้ขับขี่และจอกลางแทน เพื่อให้พื้นที่คอนโซลกลางดูสะอาดตามากยิ่งขึ้น โดยที่พวงมาลัยยังได้รับการออกแบบใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก 911 รุ่นปัจจุบัน และยังมีการปรับการจัดวางปุ่มควบคุมต่างๆ เพื่อให้ปรับแต่งหน้าจอทุกตัว รวมไปถึงจอ Head-up display รวมไปถึงโหมดการขับขี่อีกด้วย

ต่อเนื่องด้วยออฟชั่นจอสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า ที่ติดตั้งเพื่อให้สามารถช่วยควบคุมระบบความบันเทิงต่างๆ ได้อย่างอิสระ รวมไปถึงการใช้งานระบบช่วยนำทาง โดยเพิ่มเติมการสตรีมมิ่งสื่อตามต้องการขณะเดินทางได้อีกด้วย พร้อมติดตั้งหน้าจอแบบ Privacy เพื่อป้องกันไม่ให้รบกวนสายตาผู้ขับขี่

Cayenne รุ่นใหม่จะมาพร้อมขุมพลังเบนซิน V6 ความจุ 3.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จ เป็นรุ่นเริ่มต้น ให้กำลังสูงสุด 349 แรงม้า โดยจะยังมีออฟชั่นเครื่องยนต์เบนซิน V8 กำลังสูงสุด 468 แรงม้าให้เลือกในรุ่น พร้อมรุ่นย่อย E-Hybrid Plug-in hybrid ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 25.9 kWh ก่อนที่รุ่นท๊อป Turbo S E-Hybrid จะตามมาในภายหลัง

ที่มา: Motor1