ภาพคันจริง ภายนอก-ภายใน MG ES
MG Sales (ประเทศไทย) เผยโฉมและสเป็คเบื้องต้นของ MG ES พร้อมเปิดรับจอง ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2566 ถึง 19 มีนาคม 2566 เวลา 23.59 น. ผ่านช่องทางเว็บไซต์ที่ https://onlinebooking.mgcars.com/ หรือจองผ่านแอพพลิเคชัน MG THAILAND ก่อนเปิดราคาอย่างเป็นทางการ 20 มีนาคม 2023 นี้
ความเปลี่ยนแปลงของ MG ES เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม MG EP Plus มีดังนี้
-
- เปลี่ยนดีไซน์ด้านหน้าและด้านหลังใหม่
- เปลี่ยนไฟหน้าเป็นแบบ Bi-beam LED
- เปลี่ยนไฟท้ายเป็นแบบ Light Curtain Design LED
- เปลี่ยนล้ออัลลอย เป็นขนาด 17 นิ้ว (รุ่นเดิม ขนาด 16 นิ้ว)
- เปลี่ยนดีไซน์แผงแดชบอร์ดด้านหน้า
- เปลี่ยนคอนโซลกลางเป็นแบบ Double Layer
- เพิ่มเบาะนั่งคู่หน้า ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง (รุ่นเดิม ปรับด้วยมือ 6 ทิศทาง)
- เปลี่ยนหน้าจอความบันเทิงเป็นขนาด 10.25 นิ้ว (รุ่นเดิม 8 นิ้ว)
- เปลี่ยนหน้าจอชุดมาตรวัดเป็นแบบ Digital ขนาด 7 นิ้ว
- เพิ่มกล้องมองภาพรอบคัน (รุ่นเดิม มีเฉพาะกล้องมองหลัง)
- เพิ่มถุงลมนิรภัยเป็น 6 ตำแหน่ง (รุ่นเดิม มีเฉพาะคู่หน้า)
- ถุงลมนิรภัยด้านหน้า
- ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
- ม่านถุงลมนิรภัย
- เพิ่มระบบเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถด้านหน้า FCW (Forward Collision Warining)
- เพิ่มระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
- เพิ่มระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- เพิ่มระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วตำ่ TJA (Traffic Jam Assist)
- เพิ่มระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
- เพิ่มระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
- เพิ่มระบบช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping Assist)
- เปลี่ยนมาใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเวอร์ชั่นใหม่ 177 แรงม้า 280 นิวตันเมตร (รุ่นเดิม 163 แรงม้า 260 นิวตันเมตร)
- เปลี่ยนมาใช้แบตเตอรี่ Lithium-ion Phospahte ความจุ 51 kW (รุ่นเดิม 50.3 kWh)
- ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จ เพิ่มขึ้นเป็น 412 กิโลเมตร (NEDC) (รุ่นเดิม 380 กิโลเมตร)
- เปลี่ยนจานเบรกด้านหลังเป็นแบบ Ventilated Disc Brake (รุ่นเดิม เป็นแบบธรรมดา ไม่มีครีบระบายความร้อน)
ขนาดและมิติตัวถัง
Dimension
- ความยาว : 4,600 มิลลิเมตร
- ความกว้าง : 1,818 มิลลิเมตร
- ความสูง : 1,543 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ : 2,665 มิลลิเมตร
- ระยะตำ่สุดจากพื้นถึงใต้ท้องรถ : 115 มิลลิเมตร
- พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง : 1,367 ลิตร (เมื่อพับเบาะแถว 2)
ขุมพลังขับเคลื่อน
Powertrain
ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า (FWD) ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 8-layer Haur Pin Permanent Magnetic Synchronous Motor กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 2980 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion Phosphate (LFP) ความจุ 51 kWh รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง AC ผ่านหัวชาร์จแบบ Type 2 สูงสุด 11 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC ด้วยหัวชาร์จ CCS2 สูงสุด 87 kW รองรับระบบ V2L จ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า กำลังไฟฟ้าสูงสุด 2,200 วัตต์
มาพร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่
- ECO
- COMFORT
- SPORT
ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ปรับได้ 3 ระดับ ได้แก่
- มาก
- ปานกลาง
- น้อย
ตัวเลขสมรรถนะเคลมจากโรงงาน
- ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม อยู่ที่ 412 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)
- ชาร์จไฟฟ้าด้วย Home Charger จาก 0 – 100% ภายในเวลา 7 ชั่วโมง 15 นาที
- ชาร์จไฟฟ้าด้วย Quick Charger จาก 0 – 80% ภายในเวลา 40 นาที
อุปกรณ์ภายนอก
Exterior Options
- ชุดไฟหน้าแบบ Bi-LED Projector
- ระบบไฟหน้า เปิด – ปิดอัตโนมัติ
- ไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน LED Daytime Running Light
- ไฟหน้าปรับระดับสูง-ต่ำ ด้วยสวิตช์ไฟฟ้า
- ชุดไฟท้ายแบบ Light Curtain Design LED
- สปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวรถ
- ระบบไล่ฝ่ากระจกหลัง
- ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
- ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว
- ยาง ขนาด 215/50 R17
- เสาอากาศครีบฉลาม
- เซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง 3 ตำแหน่ง
- ราวหลังคา รองรับนำ้หนักได้ 75 กิโลกรัม
- สปอยเลอร์หลัง
อุปกรณ์ภายใน
Interior Options
- หน้าจอชุดมาตรวัดแบบ Digital Multi-function Display ขนาด 7 นิ้ว
- หน้าจอระบบความบันเทิงแบบ Touch Screen ขนาด 10.25 นิ้ว
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- คอนโซลกลางแบบ Double Layer (Bridge Type)
- คันเกียร์ไฟฟ้า
- เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Brake Hold
- ช่องเชื่อมต่อ USB Type C และ Type A ด้านหลัง
- เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง
- เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับด้วยมือ 4 ทิศทาง
- เบาะนั่งด้านหลัง แยกพับ 60:40
- ราวจับเหนือช่องทางเข้า-ออก
- กระจกหน้าต่างเลื่อนขึ้น – ลงแบบ One-touch
- พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง ขึ้น – ลง และเข้า – ออก
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์
- กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ
- ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start และ MG Digital Key
- ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล
- ระบบกรองอากาศ PM 2.5
- ชุดปะยางฉุกเฉิน
ระบบความบันเทิงและระบบเชื่อมต่อ
Entertainment & Connect System
- หน้าจอระบบความบันเทิงแบบ Touch Screen ขนาด 10.25 นิ้ว
- ลำโพง 6 ตำแหน่ง
- รองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และ Android Auto
- ระบบนำทาง Navigation System
ระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่
Safety System & Driving Assistance
ติดตั้งระบบความปลอดภัย Synchronized Protection System ได้แก่
- ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก ABS (Anti-lock Brake System)
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution)
- ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
- ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
- ระบบเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถด้านหน้า FCW (Forward Collision Warining)
- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วตำ่ TJA (Traffic Jam Assist)
- ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
- ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping Assist)
- จุดยึดเบาะนั่ง ISOFIX
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
- ถุงลมนิรภัยด้านหน้า
- ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
- ม่านถุงลมนิรภัย
ตัวถังภายนอก
Exterior Colors
- เงิน (Champagne Sliver)
- ขาว (Arctic White)
- เทา (Andes Grey)
- ดำ (Black Knight)
- แดง (Scarlet Red)
ตัวถังภายใน
Imterior Colors
- สีดำ (เดินด้ายสีฟ้า)
ข้อมูลตัวรถ ราคาจำหน่ายของ MG ES สามารถติดตามต่อได้ทาง Headlightmag.com เร็วๆ นี้
Photo :Thanathorn Hongcharoenwattana
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ Click Here