BYD Denza เป็นความร่วมมือระหว่าง BYD และ Mercedes-Benz ที่เริ่มตั้งแต่ปี 2010 ภายใต้ชื่อ Shenzhen BYD Daimler New Technology แต่ในปัจจุบัน ทาง Mercedes-Benz ได้ถอดหุ้นจาก 50% ลงเหลือ 10% ทำให้การดำเนินการส่วนใหญ่กลับมาเป็นของ BYD โดยเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2022 ที่ผ่านมา ทาง BYD Denza ได้เปิดตัว D9 ในฐานะรถตู้หรู MPV 7 ที่นั่ง มาพร้อมทางเลือกขุมพลังเบนซิน 1.5 ลิตร Turbo Plug-in Hybrid (DMi) และขุมพลังไฟฟ้า 100%

ภายในงาน Bangkok International Motor Show 2023 ที่กำลังจะถูกจัดขึ้นในวันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2023 ณ อิมแพ็คชาลเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี ทาง BYD Rever เตรียมนำ BYD Denza D9 EV ขุมพลังไฟฟ้า 100% มาจัดแสดง เพื่อเป็นการหยั่งกระแสตอบรับจากลูกค้าชาวไทย ทว่ายังไม่มีแผนนำเข้ามาจำหน่ายเร็วๆ นี้

BYD Denza D9 สร้างขึ้นบนพื้นฐาน MDi Platfrom ในรุ่น Plug-in Hybrid และ e-Platform 3.0 ในรุ่น EV เช่นเดียวกับรถยนต์ BYD ยุคใหม่หลายรุ่น งานออกแบบภายนอกมีความหรูหรา เส้นสายต่างๆ ถูกรังสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด “Into the Meteor Arrow” รุ่น Plug-in Hybrid พร้อมกระจังหน้าดีไซน์คล้ายรถตู้ยอดนิยมจากแดนอาทิตย์อุทัย อย่าง Toyota Alphard ในขณะที่รุ่น EV จะได้รับกระจังหน้าแบบทึบ พร้อมเส้นสายแนวตั้ง

มิติตัวถังภายนอก มีดังนี้

• ความยาว : 5,250 มิลลิเมตร
• ความกว้าง : 1,960 มิลลิเมตร
• ความสูง : 1,920 มิลลิเมตร
• ความยาวฐานล้อ : 3,110 มิลลิเมตร

เปรียบเทียบขนาดกับรถยนต์ MPV ที่จำหน่ายในไทย (ยาว x กว้าง x สูง / ฐานล้อ)

• BYD Denza D9 : 5,250 x 1,960 x 1,920 / 3,110 มิลลิเมตร
• Toyota Alphard : 4,945 x 1,850 x 1,895 / 3,000 มิลลิเมตร
• Hyundai Staria : 5,253 x 1,997 x 1,990 / 3,273 มิลลิเมตร
• KIA Carnival : 5,155 x 1,995 x 1,740 / 3,090 มิลลิเมตร

ภายในห้องโดยสารของ BYD Denza D9 มาพร้อมเบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Premium NAPPA เพดานหลังคาหุ้มด้วยหนังกลับ Premium suede แผงประตูตกแต่งด้วยไม้วีเนียร์ ซ่อนไฟ Ambient Light ที่สามารถปรับได้ 148 เฉดสีเอาไว้อย่างแนบเนียน

อุปกร์ต่างๆ ที่ติดตั้งมาให้ มีทั้งชุดมาตรวัดแบบดิจิตอล 3D ขนาด 10.25 นิ้ว หน้าจอความบันเทิงด้านหน้า ขนาด 15.6 นิ้ว ทำงานร่วมกับชุดเครื่องเสียงแบบ Dynaudio HiFi-level 14 ลำโพง ขณะที่เบาะนั่งแถว 2 จะได้รับการติดตั้งหน้าจอ ขนาด 12.8 นิ้ว พร้อมกล้อง 8-megapixel lifting privacy รองรับการประชุมทางไกล

นอกจากนี้ เบาะนั่งแถว 2 ซึ่งเป็นไฮไลท์ของรถยนต์รุ่นนี้ ยังมาพร้อมรางเลื่อนที่สามารถปรับได้ถึง 1,080 มิลลิเมตร ตัวเบาะเป็นแบบปรับด้วยไฟฟ้า 10 ทิศทาง พนักพิงศีรษะปรับได้ 6 ทิศทาง มีส่วนรองรับขาที่สามารถปรับได้ด้วยไฟฟ้า อีกทั้งยังติดตั้งระบบนวดไฟฟ้า 10 จุด เพื่อทำให้การนั่งโดยสารเกิดความสบายอย่างสูงสุด

ด้านขุมพลังของ BYD Denza เวอร์ชั่นจีน มีให้เลือก 2 รูปแบบ ได้แก่ Plug-in Hybrid และ EV

Plug-in Hybrid 

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharger กำลังสูงสุด 138 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 231 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า AC permanent magnet synchronous รุ่น DM-i EHS170 กำลังรวมสูงสุด มี 3 ระดับ ได้แก่ 300, 345 และ 406 แรงม้า (PS) พ่วงด้วยแบตเตอรี่  Ternary Lithium ความจุ 10.06 – 40.06 kWh โดยรุ่นแบตเตอรี่ใหญ่ รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรงสูง 80 kW วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกล 180 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)

EV

รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า FWD ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า AC permanent magnet synchronous กำลังสูงสุด 312 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Blade Battery ความจุ 103.36 kWh ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็มอยู่ที่ 620 กิโลเมตร (มาตรฐาน CLTC)

รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Smart Electric Four-wheel Drive ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า AC permanent magnet synchronous 2 ตัว กำลังสูงสุด 374 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Blade Battery ความจุ 103.36 kWh ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็มอยู่ที่ 600 กิโลเมตร (มาตรฐาน CLTC)

ด้านความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่ ติดตั้งเรดาห์ High Precision Millimeter Wave ที่มีความละเอียดระดับ 5 มิลลิเมตร จำนวน 12 ตำแหน่ง และเรดาห์ Ultrasonic อีกจำนวน 24 ตำแหน่ง มาพร้อมแพ็คเกจ Denza Pilot L2 ประกอบด้วยระบบต่างๆ ดังนี้