Hyundai STARGAZER อวดโฉมอย่างเป็นทางการ ในงาน Gaikindo Indonesia International Auto Show (GIIAS) 11 สิงหาคม 2022 ในฐานะ Mini MPV เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่จะเข้ามาแชร์ส่วนแบางตลาดรถยนต์ Sub-Compact Minivan 7 ที่นั่ง ในภูมิภาค ASEAN ที่กำลังเดือดระอุ มีคู่แข่งใน Segment เดียวกัน ได้แก่ Toyota Veloz, Honda BR-V และ Mitsubishi Xpander
ล่าสุด Hyundai Mobility (Thailand) เตรียมเปิดตัว Hyundai Stargazer อย่างเป็นทางการในประเทศไทย วันที่ 21 มีนาคม 2023 พร้อมนำไปโชว์ตัวที่งาน Bangkok International Motor Show 2023 ณ อิมแพ็คชาลเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี
Hyundai Stargazer จะมาพร้อมอุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร ดังนี้
- เบาะนั่ง 7 ที่นั่ง เลือกรูปแบบเบาะแถวกลางได้ ทั้งแบบ Bench Seat หรือ Captain Seat!
- เบาะนั่งหุ้มหนัง ในรุ่น Prime
- พวงมาลัยแบบปรับ สูง – ต่ำ และ เข้า – ออก Telescopics
- ชุดมาตรวัดแบบ Supervision Color TFT LCD cluster ขนาด 4.2 นิ้ว ปรับการแสดงผลตามใจชอบ
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมไฟเรืองแสง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger
- ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารแบบ ธรรมดา และ LED
- ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร Ambient Mood Lighting
- กล้องมองภาพด้านหลังขณะถอย Rear View Monitor – without switch
- เครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
- เบาะนั่งฝั่งคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง
- ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V
- ช่องจ่ายไฟสำรองแบบ USB
- ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- พนักวางแขนสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง บนแผงประตู พร้อมช่องวางแก้วน้ำ ระดับพอดีมือ
- กุญแจ Smart Keyless Entry with key fob พร้อมระบบกันขโมย Immobilizer
นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบความบันเทิง อันประกอบไปด้วย
- หน้าจอชุดเครื่องเสียง (วิทยุ AM/FM เครื่องเล่นไฟล์เพลง), แบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว
- รองรับไฟล์ MP3
- รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย Bluetooth
- รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto
- ลำโพง 6 ตำแหน่ง
- USB สำหรับเชื่อมต่อระบบ Multimedia
- ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและสั่งการ Bluetooth บนพวงมาลัย
ด้านขุมพลังจะยกชุดมาจาก Hyundai Creta Minorchange ที่เพิ่งเปิดตัวไปในตลาดเมืองไทย โดยเป็นเครื่องยนต์ ตระกูล Smart Stream รหัส G4FL เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1.5 ลิตร 1,497 ซีซี. กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 75.6 x 83.4 มิลลิเมตร กำลังอัด 10.5 : 1 ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด MPI (Multi-point Injection) พร้อมระบบแปรผันวาล์ว D-CVVT (Dual Continuous Variable Valve Timing)
กำลังสูงสุด 115 แรงม้า (PS) ที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ผ่านมาตรฐานไอเสีย EURO4 ขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยทางเลือก ทั้ง เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผัน IVT (Intelligent Variable Transmission)
มีโหมดการขับขี่ Drive Mode 4 รูปแบบ
- Normal
- Eco
- Sport
- Smart
ด้านความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่ จัดเต็มด้วยระบบต่างๆ ดังนี้
- ระบบป้องกันล้อล็อก Anti-lock Braking System (ABS)
- ระบบเสริมแรงเบรก Brake Assist System (BAS)
- ระบบควบคุมเสถียรภาพ Electronic Stability Control (ESC)
- ระบบควบคุมการทรงตัว Vehicle Stability Management (VSM)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Assist Control (HAC)
- สัญญานไฟกระพริบฉุกเฉินเมื่อเบรกกระทันหัน Emergency Signal System (ESS)
- ระบบกล้องมองหลังแสดงภาพขณะถอยจอด Rear View Monitoring (RVM)
- ระบบแจ้งเตือนความผิดปกติของแรงดันลมยาง Tire Pressure Monitoring System (TPMS)
- เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง Parking Distance Warning – reverse
- ระบบกุญแจ Immobilizer
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง 6-Airbags
- ถุงลมคู่หน้า
- ถุงลมด้านข้าง
- ม่านถุงลมนิรภัย
- ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Hyundai SmartSense ประกอบด้วย
-
- ระบบช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Forward Collision-Avoidance Assist (FCA)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist (LKA)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน Lane Following Assist (LFA)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind-Spot Collision-Avoidance Assist (BCA)
- ระบบช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ Rear Cross-Traffic Collision-Avoidance Assist (RCCA)
- ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist (HBA)
- ระบบเตือนการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาทางด้านหลัง Safe Exit Assist (SEA)
- ระบบเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Driver Attention Alert (DAW)
- ระบบช่วยจำกัดความเร็ว Manual Speed Limit Assist (MSLA)
- ระบบเตือนให้ตรวจสอบผู้โดยสารด้านหลัง Rear Occupant Alert (ROA)
ราคาจำหน่ายของ Hyundai Stargazer เวอร์ชั่น คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 7xx,000 บาท ในรุ่นเริ่มต้น ข้อมูลตัวรถทั้งหมด สามารถติดตามได้ทาง www.Headlightmag.com ในวันที่ 21 มีนาคม 2023 นี้
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ Click Here