Audi เดินสายเปิดตัวรถต้นแบบขุมพลังไฟฟ้าตระกูล -sphere Concept ตั้งแต่ Skysphere concept ในปี 2021 ในรูปแบบตัวถังรถสปอร์ต 2 ประตู และตามมาด้วย Grandsphere concept รถ Gran Tourer 4 ที่นั่งคันโตเปรียบเสมือนเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ในปีเดียวกัน ก่อนที่จะเปิดตัว Urbansphere concept ในปี 2022 ซึ่งเปลี่ยนการเดินทางในเขตเมืองให้สะดวกสบายด้วยห้องโดยสารขนาดใหญ่และระบบขับขี่อัตโนมัติ จนกระทั่งได้เปิดตัวรุ่นที่ 4 ในช่วงต้นปี 2023 ด้วยรุ่น Activesphere




Activesphere มีงานออกแบบที่ผสมผสานระหว่างรถ Sportback อันเลื่องชื่ออย่าง A7 Sportback และความเป็นรถ Estate ยกสูงของบรรดา Avant Allroad และพิเศษสุดกับครั้งแรกที่สามารถแปลงตัวถังด้านท้ายให้เปิดโล่งเพื่อขนสัมภาระต่างๆ ได้เสมือนเป็นรถกระบะ เพียงปลายนิ้วสัมผัสด้วยปุ่มเปิดฝาท้ายให้เปิดออกไปโดยอัตโนมัติ ด้วยการออกแบบฝาท้ายแบบแยกชิ้นบน-ล่าง และเพื่อการขนย้ายสัมภาระท่ามกลางการลุยที่อาจเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบสกปรก ทาง Audi จึงได้ใช้วัสดุที่ทนทานเพียงพอ พร้อมกับติดตั้งจุดยึดจักรยานเพิ่มเติมมาให้
และเพื่อไม่ให้ผู้โดยสารสัมผัสถึงความเปิดโล่งกับส่วนของกระบะท้าย Audi จึงได้ติดตั้งแผ่นปิดห้องโดยสารที่ทำงานโดยอัตโนมัติหากผู้ขับขี่ได้สั่งให้รถแปลงเป็นโหมด “active back”




งานออกแบบภายนอกส่งต่อมาจากรุ่นพี่ในตระกูล -sphere Concept และด้วยความยาวร่วม 5 เมตร พร้อมล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้ว ที่ออกแบบให้สามารถเปิด-ปิดฝาครอบ เพื่อปรับให้กระแสลมทำงานเพื่อระบายความร้อนระบบเบรกเมื่อต้องการ หรือปิดเพื่อให้ลดแรงต้านอากาศ พร้อมรัดด้วยยาง Off-road ที่ทำงานร่วมกับช่วงล่างยกสูงแบบถุงลม ที่สามารถปรับให้ระยะต่ำสุดจากพื้นตั้งแต่ 208 และ 249 มิลลิเมตร


ภายในจัดเต็มด้วยประสบการขับขี่ใหม่หมดจด ที่มีการซ่อนปุ่มควบคุมทั้งหมด รวมไปถึงพวงมาลัยและคอนโซลหน้า เมื่อทำงานภายใต้โหมดขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ เพื่อเปิดบรรยากาศโปร่งโล่งระหว่างการเดินทาง มีการจัดเบาะนั่งเป็นแบบ 4 ที่นั่งแยกอิสระ ที่คั่นกลางด้วยคอนโซลขนาดใหญ่ติดตั้งช่องเก็บของอเนกประสงค์และช่องแช่เย็นและร้อนเครื่องดื่มตามต้องการ
ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การยกจอแสดงผลข้อมูลทั้งหมดมาไว้บนกระจกบังลมหน้าทั้งหมด พร้อมระบบตรวจจับการสั่งการผ่านปลายนิ้วและมือ รวมไปถึงการกวาดสายตา ที่สามารถกดและหมุนปุ่มเสมือนที่ถูกจำลองขึ้นด้วยระบบ augmented reality (AR)




Activesphere ถูกสร้างขึ้นบนงานวิศวกรรม Premium Platform Electric (PPE) ที่เป็นการทำงานร่วมกันของ Audi และ Porsche ซึ่งยืนยันแล้วว่าจะถูกนำไปใช้ในเวอร์ชัน จำหน่ายจริงของรถยนต์รุ่นปริศนาที่จะเปิดตัวภายในปี 2023 นี้
ทาง Audi ได้ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ทำให้กลายเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ พละกำลังสูงสุด 442 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 720 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ความจุ 100 kWh เพื่อให้สามารถเดินทางได้ไกลสุดถึง 600 กิโลเมตร ทำงานภายใต้เเรงดันไฟฟ้าสูงถึง 800V ตามสมัยนิยม ที่ทำให้ระบบชาร์จเร็วสามารถจ่ายไฟด้วยกำลังไฟฟ้ากว่า 270 kW




น่าติดตามกันต่อไปว่า Audi จะผลิต Activesphere เวอร์ชั่นจำหน่ายจริงออกมาในรูปแบบไหน ทั้งชิ้นส่วนด้านท้ายที่แปลงเป็นรถกระบะได้และฟังก์ชั่นภายในที่ใช้ระบบ AR และระบบขับขี่อัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ
ที่มา: Autoblog