การร่วมมือร่วมใจการลดปริมาณคาร์บอนในสภาวะแวดล้อมของโลกที่กำลังเผชิญหน้าวิกฤตการณ์ต่างๆ ทั้งโรคระบาด เศรษฐกิจและความเปลี่ยนแปลงด้านสภาพอากาศ เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะเมื่อบรรดาค่ายรถยนต์ตั้งเป้าการเข้าสู่สังคมรถ BEV ที่ปราศจากเครื่องยนต์สันดาปภายในไว้ที่ปี 2030 นี่เอง
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และยังไม่มีใครยืนยันได้ถึงความเป็นไปได้ที่จะไปถึงเป้าหมายดังกล่าว จนบางค่ายก็เลื่อนกำหนดการออกไปที่ปี 2035 หรือแม้กระทั่งมองหาหนทางอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย
Toyota เป็นหนึ่งในค่ายรถยนต์ที่มีจุดยืนชัดเจน หลังจากได้เผยรถยนต์ต้นแบบหลากหลายรูปแบบ ทั้งรถกระบะ Revo ตอนเดียวที่นำมาดัดแปลงให้เป็นรถ BEV หรือแม้กระทั่ง Corolla cross ที่ยังคงใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่เปลี่ยนไปใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนแทน ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากสนามแข่งในคราบ Corolla รายการ Touring Championship รวมไปถึง GR Yaris ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ความจุ 1.6 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จเจอร์ตัวแรง รหัส G16E-GTS
AE86 H2 version
โดยล่าสุดที่งาน Tokyo Auto Salon 2023 ทาง Toyota จึงได้เปิดตัว AE86 ใน 2 รูปแบบ ได้แก่ รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในแต่เปลี่ยนไปใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน โดยมีการดัดแปลงระบบฉีดเชื้อเพลิงและระบบจุดระเบิด รวมทั้งใช้ชิ้นส่วนจาก Mirai เช่น ถังบรรจุแก๊สไฮโดรเจนจำนวน 2 ถัง
ในขณะที่ AE86 BEV Concept อีกเวอร์ชั่นถูกดัดแปลงให้ใช้มอเตอร์ที่ยกมาจาก Tundra hybrid ให้เป็นต้นกำลังทดแทนเครื่องยนต์ 4A-GE ดั้งเดิม พร้อมติดตั้งแบตเตอรี่จาก Prius plug-in hybrid
จึงเป็นเครื่องยืนยันถึงปณิธานของ Akio Toyoda CEO ผู้หลงใหลใน Motorsport ที่เล็งเห็นการดัดแปลงรถยนต์เครื่องสันดาปภายในที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน หรือแม้กระทั่งรถสปอร์ตรุ่นเก๋าอย่าง AE86 ที่สามารถต่ออายุให้สามารถวิ่งบนถนนหลวงต่อไปได้ โดยที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ รวมทั้งเป็นการลดขยะไปได้ในตัว
AE86 BEV version
เนื่องจากการพัฒนาและจัดจำหน่ายรถ BEV ในปัจจุบันไม่สามารถทดแทนรถยนต์ที่ยังคงใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจำนวนมหาศาลได้ในช่วงระยะเวลาอันสั้น การดัดแปลงเช่นนี้ ถึอเป็นทางออกที่หลายค่ายรถยนต์เริ่มให้ความสนใจ
อย่างไรก็ตาม” แนวคิดดั่งกล่าว ยังคงต้องการการพัฒนาต่อยอดเพื่อให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถเดินสายพานการผลิตได้จริง เพื่อเป็นช่วงระยะเวลารอคอย ก่อนที่ความสมบูรณ์ทางเทคโนโลยีของขุมพลังไฟฟ้าล้วน ทั้งประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อน เทคโนโลยีแบตเตอรี่ รวมไปถึงระบบโครงสร้างพื้นฐาน จะมาถึงในช่วงปี 2050” Akio กล่าว
ที่มา: Motor1