หลังจากที่ Suzuki เพิ่งจะหยุดการทำตลาดของ Baleno รถ Hatchback ที่อัพไซส์ให้ใหญ่กว่า Swift ในออสเตรเลียและวางจำหน่ายในอินเดียรวมไปถึงบางประเทศในทวีปยุโรป แต่ก็ไม่หลากหลายเท่า Swift ด้วยเหตุผลทางความปลอดภัยที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานใหม่ของออสเตรเลีย
แท้จริงแล้ว Baleno ประสบความสำเร็จในอินเดียและออสเตรเลียเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ใช่ในตลาดอื่นๆ ทาง Suzuki และ Maruti Suzuki จึงได้ตัดสินใจเปลี่ยนแนวทางเข็นรถ SUV ทรง Coupe ออกมาทดแทนในบางตลาดที่ยังพอมีช่องว่างให้ลงไปเล่นแบบไม่มีคู่แข่งมากนัก
โดยรถรุ่นดังกล่าวใช้ชื่อใหม่ไม่คุ้นหูว่า Fronx ซึ่งตั้งเป้าทำตลาดหลักในประเทศอินเดีย ผ่านทางแบรนด์ Maruti Suzuki ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดในอินเดียมากกว่าใครๆ


ถึงแม้จะเป็นโมเดลใหม่ แต่ทว่า พื้นฐานของ Fronx ยังคงใช้ร่วมกับ Baleno ไม่ผิดเพี้ยน ด้วยการผสมผสานเส้นสายระหว่างรถ SUV รุ่นใหม่อย่าง Grand Vitara ที่บริเวณด้านหน้า ด้วยไฟหน้า LED แบบแยกชิ้นขนาดใหญ่ และงานออกแบบด้านข้างเดิมของ Baleno รุ่น Facelift ในขณะที่ด้านหลังถูกออกแบบใหม่หมดจด พร้อมไฟท้าย LED ที่เชื่อมต่อด้วยเส้นไฟเพรียวบางตลอดความกว้างของตัวรถ
ด้านข้างมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ทำสีแบบปัดเงาทูโทน บริเวณหลังคาติดตั้งราวสีเงินสำหรับติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม พร้อมชุดแต่งรอบคันที่เป็นลักษณะแผ่นกันกระแทกสีเงิน
มิติตัวถัง:
- ความยาว: 3,995 มม.
- ความกว้าง: 1,765 มม.
- ความสูง: 1,550 มม.
- ฐานล้อ: 2,520 มม.

ในขณะที่ภายในยังคงใช้คอนโซลหน้าที่ยกมาจาก Baleno รุ่น Facelift ที่แชร์ร่วมกับ S-Cross ที่จำหน่ายในออสเตรเลีย โดยที่ยังคงใช้หน้าจอขนาด 9.0 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สายตามสมัยนิยม ติดตั้งเครื่องเสียงจาก Arkamys stereo พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง
พร้อมระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ตกแต่งโทนสีภายในด้วยสีดำ-แดง โดดเด่นด้วยจอ Head-up display แบบสีที่แสดงผลความเร็วและระบบนำทาง รวมถึงกล้องมองรอบคัน 360 องศา และที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
ระบบความปลอดภัยพื้นฐานครบครันด้วยถุงลมนิรภัยจำนวน 6 ใบ ระบบเบรก ABS และระบบช่วยเหลือการทรงตัว พร้อมเซนเซอร์ช่วยกะระยะด้านหลัง ในขณะที่ระบบความปลอดภัยในเชิงช่วยเหลือการขับขี่ ยังคงไม่ได้รับการยืนยันจากทาง Suzuki ประเทศอินเดีย




ในขณะที่ขุมพลังมีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซินความจุ 1.0 ลิตร 3 สูบ พ่วงระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์ ที่เพิ่มด้วยระบบ Mild-hybrid ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า (PS) ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 148 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ//นาที ส่งกำลังผ่านล้อคู่หน้า ด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะหรือ เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
และยังมีเครื่องยนต์เบนซินความจุ 1.2 ลิตร 4 สูบ ไร้ระบบอัดอากาศ ให้กำลังสูงสุด 90 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 113 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านล้อคู่หน้า ด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะหรือ เกียร์ธรรมดาทำงานด้วยคลัทช์ไฟฟ้า (AMT) 6 จังหวะ
สำหรับในตลาดออสเตรเลีย ทาง Suzuki เตรียมวางจำหน่าย Fronx ภายในปี 2023 นี้ ที่คาดว่าจะมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ต่างๆ มากกว่าเวอร์ชั่นอินเดีย เช่น ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน ที่ถูกกำหนดให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 เป็นต้นไป
ที่มา: Drive.com.au