Mulliner คือแผนกปรับแต่งและจัดสเปคตัวรถตามความต้องการของลูกค้าคนพิเศษที่ปรารถนาความโดดเด่นไม่เหมือนใครภายใต้อัครยานยนต์หรูแบรนด์ Bentley ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2014 และมีอัตราการเติบโตของยอดขายจากแผนกปรับแต่งรถคันพิเศษนี้เติบโตอย่างต่อเนื่องหลังจากปี 2018 เป็นต้นมา

จนกระทั่งในปี 2022 มีลูกค้าจำนวนมากถึง 500 คัน ที่ไว้วางใจให้แผนกปรับแต่งสเปคโดยการเลือกใช้วัสดุและสีต่างๆ เพื่อรังสรรค์สเปครถยนต์ตามใจชอบ โดยเมื่อรวมจำนวนรถยนต์ที่ออกจากแผนกนี้ตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปี 2021 จะพบว่ามีรถยนต์จำนวน 1,000 คัน จึงเป็นดัชนีชี้วัดได้ว่ากระแสการตอบรับนั้นจัดว่าดีเกินคาด ด้วยอัตราการเติบโตของปี 2022 เทียบกับปี 2021 ที่คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 85% ทำลายสถิติของปี 2021 ซึ่งถูกบันทึกไว้ที่ 50%

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองยอดขายปิดท้ายครั้งที่ 500 ของปี 2022 ทาง Mulliner ได้นำสเปคของรถยนต์คันดังกล่าวที่ลูกค้าคนพิเศษได้เลือกสรรอย่างบรรจงมาเผยให้เห็นแก่สาธารณะชนเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับแบรนด์ Bentley โดยเป็นรถรุ่น Flying Spur S Hybrid สำหรับลูกค้าจากสหราชอาณาจักรดินแดนบ้านเกิดของแบรนด์นั่นเอง

เริ่มด้วยสีตัวถังภายนอกที่ถูกคิดค้นใหม่ล่าสุดจากแผนก Mulliner เป็นสีฟ้า Spark Blue พร้อมตกแต่งทริมรอบคันด้วยวัสดุสีดำเงาหรูหราพิเศษที่เรียกว่า Blackline ทดแทนวัสดุโครเมียมซึ่งติดตั้งในรถยนต์รุ่นมาตรฐาน มาพร้อมล้ออัลลอยลายพิเศษจำนวน 10 ก้าน ขนาดวง 22 นิ้ว พร้อมป้ายบอกชื่อรุ่น Flying B ที่สามารถเรืองแสงได้

ภายในมาพร้อมเบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุหนังแท้สี Beluga ที่ตัดเย็บในรูปแบบสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดเพิ่มความหรูหรา พร้อมเดินด้ายสีน้ำเงิน Klein Blue ในขณะที่วัสดุตกแต่งแผงประตูและคอนโซลภายในถูกเปลี่ยนเป็นคาร์บอนไฟเบอร์แบบเงาพิเศษตัดกับขอบช่องแอร์สีเงิน metallic พร้อมปุ่มควบคุมต่างๆ ชุบเงาเพื่อความหรูหรา

ข้อมูลด้านขุมพลังจะอ้างอิงจาก Flying Spur S ซึ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ในเดือนปี 2022 ที่งานจัดแสดงรถยนต์คลาสสิคและรถสปอร์ตชื่อดัง Goodwood Festival of Speed ประเทศอังกฤษ ด้วยการผันตัวมาเป็นรถสปอร์ตซีดานหรูที่เน้นการตกแต่งดุเข้มมากกว่ารุ่นปกติโดยการใช้วัสดุตกแต่งภายนอกสีดำเงาเป็นหลัก

โดยในรุ่น Hybrid จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน TFSI แบบ V6 ขนาด 2.9 ลิตร 2,894 ซีซี.กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.5 x 86.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 : 1 ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct-injection พ่วงระบบอัดอกาศ Twin-Turbo ให้กำลังสูงสุด 416 แรงม้า (PS) ที่ 5,650 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ที่ 5250 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ PDK 8 จังหวะ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Synchronous Electric Motor 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 18.0 kWh ขับเคลื่อน 4 ล้อ

เมื่อทำงานเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกัน จะมีกำลังสูงสุด 544 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 750 นิวตัน-เมตร และสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนเป็นระยะทาง 40 กิโลเมตร

ที่มา: Motor1