เทคโนโลยีไฟหน้าแบบ LED ได้ปลดล๊อคข้อจำกัดในการส่องสว่างของรถยนต์ในปัจจุบัน ที่นอกเหนือจากความสว่างที่มากกว่าไฟหน้าแบบเดิมๆ แล้ว ยังสามารถจัดการลำแสงให้สามารถบิดเลี้ยวหรือปรับลดทิศทางหากมีรถวิ่งสวนทางกันมาในระยะประชิด

โดยล่าสุด Porsche ได้คิดค้นเทคโนโลยีไฟหน้าแบบ High-definition matrix LED ที่สามารถนำมาใช้ทั้งไฟสูงและไฟต่ำผ่านลูกแก้วแยกชิ้น 2 ตัว ต่อ 1 ชุด รวมเป็นทั้งหมด 4 ตัว ที่ติดตั้งอยู่ภายในโคม โดยติดตั้งในแนวเดียวกันที่ขอบล่างของโคมไฟหน้า ซึ่งแตกต่างจากแบบทั่วไปที่มักจะติดตั้งไว้ที่จุดศูนย์กลางของโคม อีกทั้งการติดตั้งในรูปแบบนี้ยังสามารถควบคุมความเข็มแสงในแต่ละพื้นที่หน้ารถได้ดียิ่งกว่า เพื่อความสบายและความปลอดภัยในการขับขี่

 

ในลูกแก้ว LED แต่ละตัวจะประกอบไปด้วยหลอด LED จำนวนมากถึง 16,384 หลอด หรือ เทียบได้ในหน่วยพิ๊กเซล เมื่อเทียบกับแบบลูกแก้ว LED เดิมที่มีเพียง 84 หลอดเท่านั้น ในโหมดไฟต่ำจะให้ความสว่างสูงถึง 160 lux และ 300 lux หากผู้ขับขี่เลือกเปิดโหมดไฟสูง ไฟ LED แบบใหม่นี้จะสามารถส่องสว่างได้เป็นระยะไกลสุดถึง 600 เมตรในโหมดไฟสูง ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวได้ถูกพัฒนาร่วมกับผู้ผลิตหลอดไฟชั้นนำของโลกอย่าง Hella/Forvia Infineon และ Nichia

จุดเด่นสำคัญของเทคโนโลยีไฟหน้าแบบใหม่นี้ คือการลดขนาดของหลอด LED ให้มีความบางลงจนเทียบเท่ากับเส้นผมของมนุษย์ เพื่อให้สามารถบรรจุจำนวนหลอด LED ต่อพื้นที่ 1 หน่วย ได้มากกว่าแบบเดิม ทำให้สามารถทำงานร่วมกับการตรวจจับรถยนต์คันข้างหน้า หรือคันที่สวนเลนของกล้องที่ติดตั้งบริเวณกระจกบังลมหน้ารถ เพื่อให้ควบคุมการเปิด-ปิดหลอดดังกล่าว ไม่ให้แสงนั้นแยงตาผู้ขับขี่

 

 

อีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่ใครหลายคนอาจคาดไม่ถึง คือ ความสามารถในการลดแสงสะท้อนจากป้ายจราจร ซึ่งอาจรบกวนสายตายามขับขี่ได้ ที่พร้อมทำงานร่วมกับระบบฐานข้อมูล เพื่อตรวจสอบตำแหน่งป้ายจราจรรวมไปถึงการปรับลำแสงให้เหมาะสมตามความเร็วขณะเดินทาง

ทาง Porsche ยังไม่ได้แจ้งข้อมูลว่ารถรุ่นไหนของค่ายจะได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีไฟหน้าแบบใหม่นี้ เพียงแต่บอกใบ้ว่าจะเป็นรถ Model year 2023 เป็นต้นไป

ที่มา: Carscoops